เลขา ป.ป.ส. ปลื้ม ปราบ-บำบัด-ป้องกันยาเสพติดเกินเป้า

372

เลขา ป.ป.ส. ปลื้ม ปราบ-บำบัด-ป้องกันยาเสพติดเกินเป้า ชมเจ้าหน้าที่สร้างความมั่นใจให้ประชาชน

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการติดตามเร่งรัดการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ศปก.ครส.) ครั้งที่ 7/2567 โดยมีนาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอก สุนัย ประภูชะเนย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมในฐานะที่ปรึกษา และคณะกรรมการฯ อาทิ พล.ต.ท.สําราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายแพทย์ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ ผู้อำนวยเลขานุการคณะกรรมการ บำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ฯ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าร่วมการประชุมพร้อมหน่วยงานภาคี ผ่านระบบการประชุมออนไลน์เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่ 25 จังหวัดให้บรรลุเป้าหมาย ณ ห้องประชุมชิดชัย วรรณสถิตย์ สำนักงาน ป.ป.ส.
ในช่วงเริ่มต้นการประชุม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้แจ้งที่ประชุมผลการดำเนินงานที่ผ่านมาว่า เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบอุปกรณ์ในการป้องกันและตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด เช่น กล้องซ่อนพราง ปืน Anti-Drone ให้แก่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ณ บริเวณทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมรับฟังบรรยายสรุปรายงานการดำเนินงานการบูรณาการการทำงานร่วมกับทหาร ตำรวจ สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดพื้นที่อำเภอธวัชบุรี เป็นพื้นที่ต้นแบบในการจัดการปัญหายาเสพติดในพื้นที่ มีกระบวนการคัดกรอง ส่งต่อตามกระบวนการ ให้แน่ใจว่าฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดได้สำเร็จ และมีการฝึกฝนอาชีพ การศึกษา เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมตามเดิม ไม่กลับไปสู่วงจรของยาเสพติด นอกจากนี้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เข้าร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพและมอบเงินช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานปราบปรามยาเสพติด ในเบื้องต้น จำนวน 500,000 บาท แก่ครอบครัวของ ส.ต.ท.ศรัณยู สิงห์คำ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.นาหวาย นายกรัฐมนตรี ได้มีความเป็นห่วงและกังวลถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ อยากให้ทุกฝ่ายปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งและขอให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน สำหรับผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ ในพื้นที่ 25 จังหวัดนำร่อง พบว่า บรรลุเป้าหมายครอบคลุมทุกด้าน ดังนี้ ด้านการปราบปราม มีผลการดำเนินงานบรรลุผลในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นผลการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดฐานความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด โดยมีจังหวัดที่บรรลุเป้าหมายถึง 13 จังหวัด และผ่านเกณฑ์ 12 จังหวัด การดำเนินคดีข้อหาสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ ตั้งเป้าหมายไว้ 327 คดี แต่สามารถดำเนินคดีได้ทั้งหมด 376 คดี เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 49 คดี มีการจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด 8 คดี ด้านการบำบัดรักษา ในภาพรวมสามารถนำผู้เข้าสู่กระบวนการบำบัดได้ทั้งหมดตามเป้าหมาย โดยได้มีการตั้ง ชุมชนดีเด่นตัวอย่างของชุมชนล้อมรักษ์ 3 ชุมชน ที่มีการดำเนินการในรูปแบบ CBTx ได้แก่ และการบำบัดในรูปแบบ CBTx ชุมชนล้อมรักษ์ โดยมี 3 ชุมชน ได้แก่ 1. ชุมชนบ้านโนนทอง ต.โนนทอง อ.นายูง 2. ชุมชนบ้านโนนเชียงค้ำ ต.ทับกุง อ. หนองแสง 3. ชุมชนบ้านสมวิไล ต.บ้านตาด อ.บ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นชุมชนดีเด่นตัวอย่างของชุมชนล้อมรักษ์ ผลการนำผู้เสพที่มีอาการทางจิตเข้าสู่กระบวนการบำบัด มีผลการดำเนินงานร้อยละะ 97.44 และสามารถนำผู้เสพในระบบคุมประพฤติเข้าสู่กระบวนการบำบัดมากกว่าร้อยละ 99.47 โครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในพื้นที่แพร่ระบาดยาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลมีผู้เข้าร่วมบำบัดของ สตช. สามารถนำคนเข้าบำบัดได้จำนวน 11,335 คน (คิดเป็น 17.82คน/สถานี) และด้านการป้องกัน ได้ดำเนินการจัดระเบียบสังคมในสถานบันเทิง สถานบริการมากกว่าร้อยละ 99.70 สถานประกอบการคล้ายสถานบันเทิงมากกว่าร้อยละ 99.79 รวมทั้งรอบสถานศึกษามากกว่าร้อยละ 99.65 โดยมีการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนมากกว่าร้อยละ 95.15
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า จะมีการกำหนดวันเพื่อปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเห็นผลการปฏิบัติงานเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มบทบาทมสำคัญกับศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ติดตาม ดูแล ให้คำปรึกษา แนะนํา ให้ความช่วยเหลือ และสงเคราะห์แก่ผู้เข้ารับการบำบัดรักษา เพื่อให้บุคคลดังกล่าวสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ โดยไม่กลับมากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอีก และเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน สำนักงาน ป.ป.ส. เตรียมแต่งตั้งเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เพื่อปฏิบัติงานที่มาจากคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุมัติเพิ่มขึ้น และขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 25 จังหวัดที่เข้าร่วมประะชุมและปฏิบัติงานเพื่อลดความรุนแรง สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ทำให้ประชาชนจำนวนมากพอใจกับสถานการณ์ที่ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ไม่นิ่งนอนใจ เมื่อครบกำหนดเวลา 3 เดือน (1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2567) จะจัดการประชุมถอดบทเรียนจากการดำเนินงานที่ผ่านมาเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2568

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#เลขาฯปปส.#ข่าวอาชญากรรมวันนี้