”สหกรณ์ฯ วิเศษชัยชาญ“ แสดงจำนงแก้วิกฤติเกษตรกรไทย ขอ “ทวี“ รับซื้อปลาหมอคางดำไปปรุงอาหารแทนปลาเบญจพรรณแก่ผู้ต้องขัง 30 เรือนจำฯ ระบุ เตรียมรุดยื่นหนังสือถึง ”ธรรมนัส“ แจ้งเกษตรกรไทยหากสนใจขาย สหกรณ์ฯ รับซื้อกิโลกรัมละ 22 บาท ยอมรับ เเม้เข้าเนื้อแต่สมาชิกสหกรณ์ฯ ยินดีช่วยเหลือ คลี่คลายวิกฤติประเทศ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ก.ค.67 ที่ กระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายสำรวย วงษ์สนอง ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด และนายประมวล โสนน้อย รองประธานสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ในฐานะที่สหกรณ์ฯ เป็นคู่สัญญากับกรมราชทัณฑ์ จำนวน 30 แห่ง มีความประสงค์ช่วยเหลือเกษตรกรไทย แก้ไขปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำทำลายระบบนิเวศบ่อเลี้ยงกุ้ง หอย ฯลฯ โดยจะรับซื้อปลาหมอคางดำในราคากิโลกรัมละ 22 บาท และยื่นหนังสือขอให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม มีข้อสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ รับซื้อปลาหมอคางดำแทนปลาชนิดอื่น เพื่อปรุงอาหารให้ผู้ต้องขังเรือนจำทั่วประเทศ โดยมี นายสุรไกร นวลศิริ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม เป็นตัวแทนรับเรื่อง
โดยนายสำรวย วงษ์สนอง ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด เปิดเผยว่า ปกติแล้วทางสหกรณ์ฯ มีการส่งวัตถุดิบ อาทิ ผัก หมู ไก่ ปลาเบญจพรรณ แก่เรือนจำทั้ง 30 แห่งตามการเป็นคู่สัญญาปีต่อปี เช่น หากเป็นเรือนจำในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็เป็นเรือนจำกลางคลองเปรม ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำพิเศษธนบุรี เป็นต้น ซึ่งแต่ละเรือนจำจะมีการสั่งปริมาณวัตถุดิบในแต่ละเดือนเพื่อไปประกอบเมนูให้ผู้ต้องขังรับประทาน โดยเฉพาะปลาเบจพรรณ เดิมทีเราจัดส่งให้แก่เรือนจำทั้ง 30 แห่ง ประมาณ 10 ตัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสหกรณ์ฯ เราตั้งกรอบการดำเนินงานไว้ว่าหลังจากนี้ จะเข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแจ้งความประสงค์ว่าสหกรณ์ฯ จะตั้งจุดรับซื้อปลาหมอคางดำจากเกษตรกรไทยทั่วประเทศในราคากิโลกรัมละ 22 บาท หากสมาชิกท่านใดสนใจส่งจำหน่ายก็ติดต่อมาที่สหกรณ์ฯ ได้ โดยจะต้องเป็นปลาหมอคางดำขนาดเท่าฝ่ามือ หรือตัวใหญ่ หรือ 5 ตัว มีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม เพราะถ้าใช้เป็นตัวเล็กจะมีก้างเยอะ และอาจปรุงอาหารไม่เพียงพอสำหรับผู้ต้องขัง ซึ่งที่เรารับซื้อกิโลกรัมละ 22 บาท ได้มีการคำนวณรวมค่าขนส่งแล้ว
นายสำรวย เผยอีกว่า เดิมทีปลาเบญจพรรณ เรารับซื้อจากเกษตรกรกิโลกรัมละ 15 กว่าบาท แต่ในกรณีของปลาหมอคางดำ เราตั้งใจช่วยเหลือเกษตรกรไทย ลดผลกระทบจากปัญหาระบบนิเวศ แม้เรารับซื้อกิโลกรัมละ 22 บาท เข้าเนื้อก็ไม่เป็นไร สมาชิกในสหกรณ์ฯ มีความยินดีในส่วนนี้ เราไม่หวังกำไร ส่วนกรณีของกระทรวงเกษตรฯ ที่รับซื้อปลาหมอคางดำกิโลกรัมละ 15 บาท ส่วนใหญ่เป็นปลาคละไซต์ ขนาดตัวเล็กบ้างขนาดใหญ่บ้าง จะต่างจากของเราที่รับซื้อไซต์ใหญ่ เพราะต้องให้เพียงพอกับการรับประทานของผู้ต้องขัง
อย่างไรก็ตาม หาก พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม ตอบรับช่วยเหลือตรงนี้ รวมถึงมีข้อสั่งการไปยังกรมราชทัณฑ์ เปลี่ยนจากปลาเบญจพรรณเป็นปลาหมอคางดำแทนก็จะได้ช่วยเกษตรกรไทยได้ไม่มากก็น้อย และทางสหกรณ์ฯ จะได้ตั้งจุดรับซื้อต่อไป ทั้งนี้ ทางสหกรณ์ฯ มีความตั้งใจว่าจะรับซื้อปลาหมอคางดำจากเกษตรกรไทยในราคากิโลกรัมละ 22 บาทไปจนกว่าวิกฤติจะคลี่คลาย มั่นใจว่าจะช่วยลดงบประมาณของรัฐได้