สืบนครบาล ร่วมกับ สืบ บก.น.3 สน.มีนบุรี และสืบ จว.นครนายก จับกุม “บาส หลอแหล สายกลาง วิ่งราวทรัพย์ร้านทอง พื้นที่ สน.มีนบุรี (ทอง 40 บาท)
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ: 11:20 น. ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ สน.มีนบุรีว่าเหตุ วิ่งราวทรัพย์ ห้างทองออโรร่า บิ๊กซีสุขาภิบาล3 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ จึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ คนร้ายได้หลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว จึงได้สอบถามผู้จัดการร้าน แจ้งว่ามีชาย 1 คนสวมเสื้อแขนยาวสีดำแบบมีฮูดกางเกงยีนสีดำ รองเท้าแตะ กระเป๋าสะพายไหล่สีดำสายสีแดง โดยได้ชิงทองจำนวน 1 ถาดน้ำหนักทอง จำนวนประมาณ 40 บาทใส่กระเป๋าที่สะพายมา แล้ววิ่งหลบหนีไปบริเวณหน้าห้างโดยใช้รถจยย.ฮอนด้าเวฟสีฟ้าไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียนโดยด้านหลังมีกล่องไรเดอร์สีส้มขับรถออกเส้นทางรามคำแหงไม่ทราบเส้นทางหลบหนี
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. จึงได้สั่งการ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และ พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 ให้รีบดำเนินการสืบสวนจับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็ว โดยต่อมาได้จัดชุดสืบสวน ของ บก.สส.บช.น. ลงพื้นที่สืบสวน ร่วมกับ สืบสวน บก.น.3 สน.มีนบุรี
ต่อมาได้ขยายผลการสืบสวน ยังทราบว่า คนร้ายรายนี้ยังได้ก่อเหตุในลักษณะนี้ ดังนี้
1.ก่อเหตุชิงทรัพย์ปั้มน้ำมันบางจาก ใช้อาวุธมีด กาญจนาภิเษก 12 เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.67 เวลา 20.21 น.
ทรัพย์ที่ถูกประทุษร้าย 5,410 บาท
2.ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านซีเจ เอ็กเพลส ใช้อาวุธมีด กาญจนาภิเษก 12 เมื่อวันที่ 13 ก.ค.67 เวลา 19.57 น.
ทรัพย์ที่ถูกประทุษร้าย 3,700 บาท
3.ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านเซเว่น ใช้อาวุธมีด กาญจนาภิเษก 13 เมื่อวันที่ 15 ก.ค.67 เวลา 23.07 น.
ทรัพย์ที่ถูกประทุษร้าย 5,157 บาท
และวันนี้ 19 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 14.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ,พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น, พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส 1 บก.สส บช., พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์, พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รอง ผกก.สส.4ฯ พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบด้วย พ.ต.ต.นิทัสน์ มีทอง สว.กก.สส.4ฯ, พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส 1 ฯ , ร.ต.อ.ณพวิทย์ ดิษฐป้าน รอง สว.ฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.นครนายก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.3
ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายพงษ์ศธร มะหะมาน หรือบาส หลอแหล สายกลาง อายุ 26 ปี ที่อยู่ 109
ซ.ราษฎร์พัฒนา 30 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง จังหวัดกรุงเทพมหานคร
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีที่ 995/2567 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
พฤติการณ์กล่าวคือเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่านายพงษ์ศธร มะหะมาน อายุ 26 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีที่ 995/2567 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ว่าได้หลบหนีเข้ามาในพื้นที่ อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการตรวจสอบ จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.30 น.พบรถยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น Civic สีเขียว จอดอยู่บริเวณแยกประชาเกษม
ต.สาลิกา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก จากการตรวจสอบพบ นายพงษ์ศธรฯ ผู้ต้องหาเป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ พร้อมแสดงบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจให้บุคคลดังกล่าวตรวจดูจนเป็นที่พอใจ ได้แสดงหมายจับให้นายพงษ์ศธรฯตรวจสอบดู จากการสอบถามบุคคลดังกล่าวยอมรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับฉบับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ แจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิ ให้ผู้ถูกจับทราบ ผู้ถูกจับรับทราบข้อกล่าวหาและสิทธิดีแล้ว
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัว นายพงษ์ศธรฯ มาจัดทำบันทึกการจับกุมที่ กก.สส.ภ.จว.นครนายก และนำส่ง พงส.สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากนั้นได้ทำการตรวจค้นรถ พบของกลางดังนี้
1.ทองคำรูปพรรณ จำนวน 22 เส้น น้ำหนักเส้นละ 1 บาท
2.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
3.รถยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น Civic สีเขียว ทะเบียน 3ขช 4874 กทม.
4.เงินสด 11,660 บาท
5.ยาเค น้ำหนักประมาณ 43.21 กรัม
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่า ก่อนก่อเหตุได้ไปยืมรถจักรยานยนต์กับเพื่อนที่ร้านเกมส์ย่านร่มเกล้าแล้วขับขี่ไปก่อเหตุ หลังจากนั้นได้เข้าไปเดินวนที่เกิดเหตุ 1 รอบ โดยแต่งกายเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ สวมหมวกสีแดง สาเหตุที่เลือกร้านนี้เนื่องจากใกล้ประตูทางออก หลบหนีได้ง่าย ซึ่งขณะก่อเหตุสวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ สวมแมส พร้อมอาวุธคือหน้าไม้ ขณะก่อเหตุผู้ก่อเหตุไม่ทราบว่าได้ทองไปเท่าไหร่
หลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปเปลี่ยนชุดที่บ้าน และได้เอาทองไปจำนำที่โรงรับจำนำแห่งหนึ่ง ได้เงินสด 130,000 บาท หลังจากนั้นเอารถจักรยานยนต์ไปคืนเพื่อนและนั่งแท็กซี่เพื่อไปซื้อรถยนต์เก๋งมือสองด้วยเงินสด 81,000 บาท
สาเหตุเนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้และซื้อยาเสพติดมาเสพ ไม่ได้มีการวางแผนหรือร่วมมือกับผู้อื่น
แต่อย่างใด เอาเงินสดที่ได้ไปซื้อรถยนต์และใช้จ่ายอื่นๆ
ขอประชาสัมพันธ์ ผู้ใดหรือร้านค้าใด เคยตกเป็นเหยื่อหรือมีข้อมูลโปรดติดต่อสืบนครบาล หรือ สน.มีนบุรี
#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#สืบนครบาล#ข่าวอาชญากรรมวันนี้