สหภาพไฟฟ้านครหลวงเปิดหน้าชน ออกแถลงการณ์ รัฐบาล ขึ้นค่าไฟผลักภาระให้ประชน เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน
เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2467 นายเสนอ วิสุทธนะ ประธานสหภาพแรงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง ได้มีหนังสือแถลงการณ์สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวงฉบับที่ 1/2567 เรื่อง คัดค้านการผลักภาระการขึ้นค่าไฟฟ้าให้แก่ประชาชน
ตามที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการขึ้นค่า Ft และผลักภาระค่าไฟฟ้าให้แก่ประชาชน ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้แถลงผ่านรัฐบาลจะตรึงค่าไฟฟ้างวด ก.ย-ธ.ค.67 เอาไว้เท่าเดิม คือ 4.18 บาท/หน่วย เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพ กับประชาชน รัฐบาลได้เตรียมเรื่องนี้มานานแล้ว โดยจะพยายามครึงค่าไฟฟ้าไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วยเหมือนที่ทำทุก 4 เดือน คราวนี้ก็แบบเดียวกัน”ที่รัฐบาลให้ กฟผ.รับภาระไปก่อน ขณะนี้กำลังหารือในรายละเอียด และเชื่อว่าวิธีการที่จะไปคุ
การดำเนินการในครั้งที่ผ่านมา”การแถลงดังกล่าวทำให้ค่าไฟฟ้ากลับมาอยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วยตามเดิม
อย่างไรก็ตาม การแถลงดังกล่าว เป็นเพียงมาตรการชั่วคราวที่พยายามตรึงค่าไฟฟ้าไว้ทุกๆ 4 เดือน แต่ไม่ได้มีมาตรการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุระยะยาว สหภาพแรงงานฯ ขอแถลงว่า รัฐบาลโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เป็นผู้ที่กำหนดไฟฟ้าผันแปร ที่คำนวณจากค่าเชื้อเพลิง ค่าซื้อไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐที่เปลี่ยนแปลงจากค่าไฟฟ้าฐาน ซึ่งนำไปคิดเพิ่มไว้ในค่าไฟฟ้าฐาน อัตราค่า Ft นี้ จะเป็นอัตราที่ให้ การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และการไห้(กฟภ.)มาคิดกับประชาชนแล้วนำส่งรัฐบาล เพื่อนำไปจ่ายให้กับการไฟ้ฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ) แต่ปรากฏว่าหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลส่งให้กับ กฟผ. เพียงบางส่วน และติดค้างหนี้จนถึงปัจจุบัน เป็นเงิน 89 485 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ปี 2567 กฟผ.ได้จัดส่งรายได้เข้ารัฐบาลเป็นเงินถึง 16,841 ล้านบาท
สหภาพแรงงานฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า รัฐบาลต้องชำระหนี้ที่ค้างให้กับ กฟผ. แต่กลับพยายามผลักภาระหนี้ดังกล่าวให้กับประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม โดยการคิดเพิ่มในค่า Ft ทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่าสิบปีที่ผ่านมา รัฐบาลโดย กกพ. มีการคาคการณ์หรือประมาณการ ในการใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศที่สูงเกินความเป็นจริง ซึ่งอาจเป็นเจตนาจงใจ ที่ต้องการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนใหญ่ที่เข้าหากินกับค่าไฟฟ้า จึงให้เกิดความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ข้าวของแพงขึ้นเพราะต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง
สหภาพแรงงานฯ เห็นว่า รัฐบาลค้างหนี้กับ กฟผ. ก็ต้องเป็นภาระที่รัฐบาลต้องบริหารจัดการ มิใช่โชโยนภาระให้กับประชาชน เพราะภาระหนี้ดังกล่าวมาจากนโยบายของรัฐบาล มิใช่แก้ปัญหาโดยการตรึงค่าไฟฟ้าทุกๆ 4 เดือน
ภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง จะทำการขับเคลื่อนต่อไป เพื่อคัดค้านการเอื้อประโยชน์ใหญ่ที่หากินกับความทุกข์ของประชาชน ด้วยการขูดเลือดขูดเนื้อจากค่าไฟฟ้า
ขอเรียกร้องให้คืนการผลิตไฟฟ้าให้กับ กฟผ.ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 51.%ตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบัน กฟผ.ถูกลดการผลิตลงเหลือ 30% ส่วนอีก 70.%นำไปเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนใหญ่ที่ผูกขาดการผลิตไฟฟ้าจนร่ำรวยมหาศาล
รวมพลังด้านกลุ่มทุนใหญ่ที่หากินกับการผูกขาดผลิตกระแสไฟฟ้า“หนังสือแถลงการณ์ดังกล่าว ระบุ“
#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#กฟผ.#รัฐบาล