“ปริเยศ ” ชี้รัฐบาลเพื่อไทย ถนัดสร้างเรื่องมากกว่าสร้างผลงาน ออกนโยบายขัดแย้งกันเองกับพรรคร่วม จุดยืนไปคนละทาง เชื่อตั้งสิบ”ทักษิณ”เป็นที่ปรึกษาก็แก้ปัญหาประชาชนไม่ได้ มองกฏหมายผ่านสภาน้อย มีแต่ข่าวความขัดแย้งรายวัน ระบุถึงเวลาเลิกโทษฝ่ายค้าน หันหน้าเร่งผลิตผลงานตามเทคนิคหาเสียง
วันที่ 15 ก.ค. นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทยเรียกร้องนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำรัฐบาล เร่งแก้ปัญหาภายใน ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลไม่มีผลงานเป็นรูปธรรมเกิดปัญหารอบด้านทั้งค่าครองชีพพุ่งสูง ภาคธุรกิจและตลาดทุนตกต่ำ ภาวะหนี้สิ้นของประชาชนที่ดูเหมือนมากกว่ายุครัฐบาลก่อนๆ รวมถึงการปะทะกันทั้งทางด้านนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งต่างคนต่างมีจุดยืนของพรรคตนเอง เช่น ปุ๋ยคนละครึ่ง , นโยบายกัญชา , นโยบายอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีปัญหาการเมืองในพรรครัฐบาลออกสื่อไม่เว้นวัน รวมถึงข้อขัดแย้งกับหน่วยงานราชการอยู่ต่อเนื่อง เช่น ธปท. เป็นต้น
“มองการทำงานของรัฐบาลเกือบ 1 ปี ยังไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม เจอแต่ปัญหาความขัดแย้งกับหน่วยงานราชการ จุดยืนของนโยบายที่แตกต่างกัน เหมือนนั่งประชุมครม.แยกวง เชื่อว่าหากรัฐบาลไม่เป็นเอกภาพโดยเฉพาะนโยบายที่เป็นไปคนละทิศคนละทาง จะทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ ต่อให้ตั้งอีกสิบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นที่ปรึกษาก็ตาม “
นอกจากนี้ ยังพบว่ากฏหมายหลายฉบับทั้งร่างของฝ่ายค้านและรัฐบาลถูกนำกลับเข้ามาสภาช้ามาก ทั้งที่กฏหมายบางฉบับเป็นประโยชน์ทางการเมืองกับพรรครัฐบาลด้วยซ้ำ และสส.แทบทั้งสภาก็เห็นปัญหาร่วมกันว่า จำเป็นต้องเร่งรัดให้มีกฏหมายสำคัญๆออกมาให้เร็ว แต่หลายฉบับไปติดขัดที่ฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะฉบับที่ถูกตีความว่าเป็นกฎหมายการเงิน จึงกลายเป็นคอขวดอยู่ที่นายกรัฐมนตรีที่เน้นการเป็นเซลล์แมน ประชาสัมพันธ์ มากกว่าผลิตผลงานที่เป็นรูปธรรม
“สส.รัฐบาลด้วยกันเองแสดงความไม่เห็นด้วยดูขัดกันไปเสียหมด โดยเฉพาะด้านการเมืองที่มีข่าวออกมาต่อเนื่องย่อมทำให้การทำงานของรัฐบาลยากขึ้น เรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชนในภาพรวมที่ไม่ใช่กฏหมายปลีกย่อยก็จะช้าลงเรื่อยๆ เพราะรัฐบาลเองก็ไม่อยากเสี่ยงให้กฏหมายสำคัญๆ ร่างครม.เข้ามาแล้วสภาล่มหรือติดขัดในสภา เพราะจะเป็นการเปิดแผลว่ามีความขัดแย้งภายในรัฐบาล เพราะต้องพึ่งพาเสียงของ สส. ในสภา”นายปริเยศ กล่าว
นายปริเยศ กล่าวด้วยว่า วันนี้ประชาชนรอคอยความหวังมาร่วมปี ทั้งนโยบายจากรัฐบาล และกฏหมายจากสภา แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ พวกเขาได้แต่เห็นธาตุแท้ของรัฐบาลชุดนี้ว่า “ถนัดสร้างเรื่องมากกว่าสร้างผลงาน” เพราะไม่สามารถควบคุมอะไรได้ทั้งในครม. และผลักดันนโยบายแทบไม่ได้ ลามไปถึงกระทั่งเสียงในสภาที่แม้จะมีจำนวนสส.อยู่มากแต่ก็ผลักดันกฏหมายไม่ได้
ดังนั้นจึง อยากให้พรรคแกนนำรัฐบาลปรึกษาหารือกันให้ชัดว่าจะเดินหน้ากันแบบไหน หรือจะมีนโยบายใดที่จะทำกันก่อน กฏหมายอะไรที่คิดว่าต้องรีบผลักดัน เลิกสร้างวาทกรรมโยนแพะให้ฝ่ายค้านและรีบแก้ไขตนเองอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการเดินหน้าผลิตนโยบายตามเทคนิคหาเสียงที่ได้ประกาศไว้ในช่วงการเลือกตั้ง ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ก่อนที่ประชาชนจะหมดความอดทน