“รังสิมันต์” จี้รัฐบาลไทยออกนโยบายให้ชัด กรณีรัฐบาลทหารเมียนมาใช้ธนาคารไทยโอนถ่ายเงินซื้ออาวุธ ย้ำในขณะที่นานาชาติกำลังคว่ำบาตร เราจะปล่อยให้ไทยเป็นเครื่องมือของรัฐบาลทหารในการปราบปรามประชาชนไม่ได้
จากกรณีการเปิดเผยรายงานจากผู้รายงานพิเศษขององค์การสหประชาชาติ ว่ารัฐบาลทหารเมียนมาได้เปลี่ยนมาใช้ธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารอื่นๆ ในประเทศไทยในการโยกย้ายโอนถ่ายเงิน เพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับการปราบปรามประชาชน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลทหารเมียนมาใช้ธนาคารประเทศสิงคโปร์ในการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นหลัก แต่ภายหลังถูกรัฐบาลสิงคโปร์กดดันหนัก และขณะนี้รัฐบาลสิงคโปร์ได้สั่งปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลทหารเมียนมาทั้งหมดแล้ว จึงจำเป็นต้องย้ายประเทศโอนถ่ายเงิน ซึ่งผลนั้นก็ตกมาอยู่ที่ประเทศไทย
รังสิมันต์กล่าวว่า ขณะนี้นานาประเทศกำลังคว่ำบาตรรัฐบาลทหารเมียนมาและเรียกร้องให้เมียนมากลับสู่ระบบประชาธิปไตยโดยเร็ว ขณะเดียวกัน ประเทศในกลุ่มอาเซียนรวมถึงไทยก็ได้บรรลุฉันทามติ 5 ข้อต่อสถานการณ์ในเมียนมาไปแล้วเมื่อปี 2564 ซึ่งมีสาระสำคัญคือการยุติการใช้ความรุนแรงเพื่อเปิดพื้นที่เจรจาร่วมกันของทุกฝ่าย ดังนั้น เราจึงไม่สามารถปล่อยให้ประเทศไทยกลายเป็นเครื่องมือของกองทัพรัฐบาลทหารในการซื้อขายอาวุธต่อไปได้ และรัฐบาลไทยต้องมีนโยบายที่ชัดเจนต่อการแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว
ทั้งนี้ รังสิมันต์กล่าวว่า ตนจะใช้กลไกของคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป จึงขอให้ประชาชนร่วมกันจับตาและติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด