สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักศึกษามหาวิทยาลัยจุฬ่าลงกรณ์ ร่วมกับภาคเอกชน ร่วมเปิดโครงการ “หมวกสะอาดไร้กลิ่น นั่งวินปลอดภัย” หมวกกันน็อคนวัตกรรมใหม่เคลือบซิลเวอร์นาโนทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในหมวกนิรภัย พร้อมปล่อยแถวรถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง นิสิตนักศึกษา และประชาชนที่เป็นผู้โดยสารสวมใส่หมวกนิรภัยในขณะที่โดยสารรถจักรยานยนต์ รับจ้าง และมีการมอบหมวกนิรภัยให้กับวินจักรยานยนต์ และประชาชน จำนวน 300 ใบ
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า โครงการ “หมวกสะอาดไร้กลิ่น นั่งวินปลอดภัย” เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ภาคเอกชน โดยการนำนวัตกรรมใหม่ เคลือบหมวกนิรภัยด้วยซิลเวอร์นาโน เข้ามาช่วยทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในหมวกนิรภัย ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะตั้งจุดบริการพ่นทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคหมวกนิรภัยในจุดจอดจักรยานยนต์รับจ้าง ณป้ายรถประจำทางก่อนถึงแยกเฉลิมเผ่า สยามสแควร์ เพื่อจูงใจให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์รับจ้าง ให้มีการสวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้น
ด้าน รศ.ดร.แนบบุญ หุนเจริญ ผู้ช่วยอธิการบดีด้านวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าสำหรับกิจกรรม หมวกสะอาดไร้กลิ่น นั่งวินปลอดภัย ได่ร่วมมือกับ บริษัท ไพรม์ นาโนเทคโนโลยี จำกัด เป็นบริษัท Spin-off จากมหาวิทยาลัยนำเทคโนโลยีซิลเวอร์นาโนมาเคลือบหมวกนิรภัย จึงสามารถลดการสะสมของเชื้อโรคและกลิ่นเหม็น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้โดยสารปฎิเสธการใส่หมวกนิรภัย เมื่อโดยสารจักรยานยนต์รับจ้าง เบื้องต้นจะทำการแจกจ่ายหมวกนิรภัยนาโนจำนวน 300 ใบ ให้กับจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่จุฬา และสยามสแควร์ได้นำไปใช้งาน นอกจากนี้ยังได้ตั้งจุดให้บริการพ่นทำความสะอาดหมวกนิรภัย ที่บริเวณป้ายรถประจำทางสามแยกเฉลิมเผ่า ประชาชนทั่วไปสามารถนำหมวกนิรภัยมาขอรับบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ จากข้อมูลของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่ผ่านมา ได้สรุปยอดอุบัติเหตุสะสมรวม 7 วัน ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 77.83 โดยส่วนใหญ่ล้วนมีสาเหตุมาจากการที่ไม่สวมหมวกนิรภัยทั้งสิ้น ซึ่งการสวมหมวกนิรภัยนั้นสามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ได้ถึงร้อยละ 37 นอกจากนี้ผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยนั้นมีอัตราการได้รับบาดเจ็บทางสมองสูงกว่าผู้ที่สวมหมวกนิรภัยถึง 6 เท่า