เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ผูัสื่อข่าวรายงานงานว่า ตำรวจไซเบอร์รวบแพ็คคู่ ผัว-เมีย เป็นนายหน้าค้าบัญชีม้าในรูปแบบบริษัท เป็นลูกน้องคนจีนนายใหญ่สั่งการอยู่ต่างประเทศ คอยรับสมุดบัญชี โทรศัพท์พร้อมซิม ใบจดทะเบียนบริษัทพร้อมตราประทับผ่านขนส่งมาเพื่อดำเนินการเปิดบัญชีออนไลน์ให้ โดยคดีนี้หลอกลวงผู้เสียหายอ้างเป็นบริษัททนายฟ้องคดีในต่างประเทศได้รายเดียวสูญกว่า 5 ล้านบาทเศษผู้เสียหายได้หาบริษัททนายที่จะสามารถฟ้องเรื่องในต่างประเทศได้ โดยการค้นหาผ่านทางเว็ไซต์ แล้วได้พบลิงค์รายละเอียดปรากฏเป็นภาษาจีน ผู้เสียหายจึงได้ช้ Google Translate ช่วยในการแปลภาษา แล้วได้ติดต่อกับผู้ใช้งานWhatsapp ซึ่งอ้างว่าเป็นทนายความในประเทศฮ่องกง แล้วได้สนทนาเกี่ยวกับการฟ้องคดีในต่างประเทศกับผู้เสียหาย จึงได้แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้ใช้งาน Whatsapp ดังกล่าวทราบ ต่อมาผู้ใช้งาน Whatsapp ดังกล่าวก็ได้แจ้งให้ผู้กล่าวหาชำระค่าดำเนินการฟ้องร้องเรื่องดังกล่าว ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปยังบัญชีปลายทางตามที่ผู้ใช้งาน Whatsapp ดังกล่าว
รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิน 5,348,900 บาทผู้ถูกจับแจ้งว่าตนเป็นนายหน้าจัดหาบัญชีจริง โดยเมื่อประมาณต้นปี 2567 ผู้ถูกจับได้เข้าไปหางานในกลุ่มเฟซบุ๊ค ดาร์กเว็ป สายเทา บัญชีม้า ต่อมาได้มีบุคคลอ้างชื่อว่าเจฟ จำชื่อเฟซบุ๊คไม่ได้ (เชื่อว่าอยู่ต่างประเทศ และมีสัญชาติจีน) มาว่าจ้างให้เป็นคนกลางเปิดบัญชีเงินฝากออนไลน์ให้ โดยจะส่งข้อมูลและอุปกรณ์ที่ต้องใช้เปิดบัญชีมาให้ ต่อมาได้มีขนส่ง(ไรเดอร์) นำสมุดบัญชีโทรศัพท์ ชิมการ์ด บัตรเอทีเอ็ม ใบจดทะเบียนบริษัท พร้อมตราประ ทับ มาให้ ผู้ถูกจับจึงได้ดำเนินการเปิดบัญชีออนไลน์ดังกล่าวให้ ต่อมาได้รับค่จ้างเปิดบัญชีละ 5,000 บาท โดยส่งเงินมาทางขนส่ง(ไรเดอร์) เปิดมาแล้วจำนวน 10 ครั้ง เมื่อเปิดเสร็จแล้วก็จะมีขนส่ง(ไรเดอร์) มารับไป
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย กระทั่งช่วงบ่ายของวันที่ 24 มิ.ย. 67 พ.ต.อ.พิเชียรยศ รุณพันธกุล ผกก.1 บก.สอท.1 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับเข้าควบคุมตัว น.ส.สมหญิง (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 30 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร และนายพิทยา (ขอสงวนนามสกุล )อายุ 31 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกืดความเสียหายแก่ประชาชนและเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมีได้มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง
เทคโนโลยี หรือความผิดอาญาอื่นใด” โดยควบคุมตัวได้ที่บริเวณอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะกรุงเทพมหานคร จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ชุดสืบสวนทำการสืบสวนขยายผลกับคดีที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม #ช่องทางการติดต่อสอบถามเพิ่มเติม พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ กาละศรี สว.กก.1 บก.สอท.1 เบอร์โทร 094 149 5999