วันที่ 16 มิ.ย. 67 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกจ.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินการเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.ระดับจังหวัดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ หอประชุมพระพิรุณ-ระลึกโปรดเกล้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (ศูนย์พระนครศรีอยุธยา หันตรา) พร้อมด้วย นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายนิวัฒน์ กล่าวว่า การเลือกในระดับอำเภอมีผู้สมัคร 1,652 คน ซึ่งเรียบร้อยดี และมีผู้ผ่านเข้ามาในระดับจังหวัด 640 คน เรื่องของการเตรียมการเรามีความพร้อมมาก มีการซักซ้อมการอบรมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นๆที่มาสนับสนุนการเลือก และนำเอาประสบการณ์ข้อสังเกตการเลือกในระดับอำเภอมาแก้ เพื่อให้การเลือกในระดับจังหวัด เป็นไปด้วยความโปร่งใส
นายนิวัฒน์ ย้ำว่า เจ้าหน้าที่มีความพร้อม เพราะผ่านการเลือกในระดับอำเภอมาแล้ว ส่วนข้อร้องเรียนต่าง ๆ ก็ต้องรอดูในวันนี้ และเราทำตามกฏหมายที่กำหนด เราพยายามจัดให้การเลือกมีความผิดพลาดน้อยที่สุด ซึ่งในพื้นที่ยังไม่มีการร้องเรียนมา เชื่อว่าการเลือกในวันนี้จะเรียบร้อยดี
ด้าน นายแสวง กล่าวว่า ความพร้อมในภาพรวมทั้ง 77 จังหวัด ได้รับรายงานว่าโดยภาพรวมไม่มีปัญหาอะไร และจังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็มีความพร้อมอย่างยิ่ง คิดว่าทุกจังหวัดก็เป็นแบบนี้ เนื่องจากใช้เจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันจากรอบที่แล้ว ด้วยศักยภาพของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือจังหวัดอื่น ๆ ตนเองเชื่อว่าการเลือกจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะการเลือกระดับอำเภอ มีเรื่องร้องเรียน 11 เรื่อง และจะนำเรื่องเหล่านี้มาปรับกับการเลือกในครั้งนี้ ซึ่งไม่น่ามีปัญหาอะไร
นายแสวง กล่าวถึงการพูดคุยก่อนการเลือกกับผู้สมัคร ว่า การพูดคุยยังไม่เป็นความผิด ไม่ว่างานอะไรที่เป็นงานของชาติของแผ่นดิน ต้องการความร่วมมือ ถ้าอยู่ถูกที่ถูกทาง ปัญหาที่กังวลจะไม่เกิดขึ้นเลย โดยผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 77 การให้เงินให้ทรัพย์สิน ส่วนการแนะนำตัวข้างนอกยังทำได้อยู่ สามารถพูดคุยกันได้ แต่ต้องอยู่อย่างสงบเรียบร้อย การฮั้ว มีการกล่าวหาอาจมีจริงหรือไม่จริง ก็ไม่ทราบ แต่ทางสำนักงานไม่ได้นิ่งนอนใจ มีชุดเจ้าหน้าที่ดูเรื่องนี้ต่างหาก ส่วนข้างนอกต้องดูความเรียบค้อยว่าจะฝ่าฝืนหรือไม่ พร้อมย้ำว่า ไม่ได้เผื่อใจว่าจะไม่สำเร็จ คิดว่าสำเร็จอย่างแน่นอน พร้อมระบุ การจัดตั้ง ตราบใดที่ไม่ให้เงิน หรือทรัพย์สิน ก็ไม่ได้มีความผิดอะไร จะลงโทษตามความคิดเห็นไม่ได้ จะต้องมีกฎหมายเป็นกรอบ และมีข้อเท็จจริงว่าเข้าองค์ประกอบผิดตามกฏหมาย โดยเรื่องร้องเรียนแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ เรื่องคุณสมบัติ การดำเนินการในการเลือกซึ่งอาจมีการร้องเรียนมาในวันนี้ก็ได้ เพราะหากผู้สมัครเห็นว่าคณะกรรมการวินิจฉัยไม่ถูก และการร้องเลือกไม่สุจริต หรือการจัดตั้ง โดยการเลือกที่ผ่านมาทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้วินิจฉัยไปหมดแล้ว และจะต้องมีการวินิจฉัยให้แล้วเสร็จก่อนเข้าสู่การเลือกระดับประเทศ
เมื่อถามถึงการตัดสิทธิ์ผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติ นายแสวง ระบุว่า ตั้งแต่การเลือกในระดับอำเภอ เราได้ตัดสิทธิ์ ผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติไปประมาณ 2,000 ราย หากไม่เห็นด้วยก็สามารถไปร้องคัดค้านที่ศาลฎีกาได้ แต่กว่า 90% ศาลฎีกายืนยันตามคำสั่งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง