ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวราขาน รอง ผบ.ตร.(ปป.) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.) พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2(ผบช.ภ.2) พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมชุดสืบสวนสอบสวน แถลงการจับกุมนายนายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน ผู้ต้องหาฆ่านายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส อายุ 20 ปี และน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือสปาย อายุ 20 ปี จนเสียชีวิตที่บริเวณลานจอดรถเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 61 กระทั่งจับกุมได้ที่ประเทศกัมพูชา และผลักดันตัวกลับถึงประเทศไทยเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว เสี่ยอ้วนมาแถลงข่าว ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ผบ.ตร. เป็นคนสอบปากคำด้วยตนเอง

สำหรับคดีดังกล่าว ศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด 6 ราย ประกอบด้วย 1. นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ อ้วน เจ้าของสถานบันเทิง ในพื้นที่หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้บงการวางแผน และใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต 2. นายสายันต์ ศรีสุข หรือ ยัน ทำหน้าที่แฝงเป็นแฟนของเพื่อนผู้เสียชีวิต เพื่อสืบข่าวและชี้เป้าหมายตลอดเส้นทาง 3. นายเกียรติศักดิ์ สุรางแสงมีบุญ หรือ บอล ทำหน้าที่ขับรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว เพื่อพานายณรงค์ วรินทรเวช หรือ บ่าว มือปืน พร้อมนำพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน มาจากจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งถอดเปลี่ยนป้ายทะเบียนเพื่อตบตา และขับรถจอดปิดท้าย เพื่อให้นายปัญญาฯ และนายรณรงค์ฯ ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต 4. นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือ ป๊อบ เดินทางมาพร้อมนายปัญญาฯ เพื่อทำหน้าที่ในการขับรถเช่า ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว เพื่อสะกดรอยติดตามผู้เสียชีวิต 5. นายกฤษณะ สีสุข หรือ มด ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายเกียรติศักดิ์ฯ ในการสะกดรอยติดตามผู้เสียชีวิต
และ 6. นายณรงค์ วรินทรเวช หรือ บ่าว ทำหน้าที่มือปืนผู้ลั่นไกสังหารผู้เสียชีวิต

โดยทั้ง 6 ราย มีความผิด “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ด้านนายปัญญา กล่าวสั้นๆกับผู้สื่อข่าวขณะถูกคุมตัวกลับไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพว่า ได้เห็นที่ ผบ.ตร.พูดว่ามีทางเลือก 2 ทาง คือทางตัน กับทางตาย ตอนนั้นก็เลือกตัน คือหนีไปให้ถึงที่สุด

ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายปัญญา รับสารภาพว่าก่อเหตุจริงและได้ดูข่าวในโซเชียลที่ตนพูดว่า มี 2 ทางเลือก คือทางตันและทางตาย เขายอมรับว่ากลัว โดยอยู่ที่ฝั่งกัมพูชา ไม่ได้สะดวกสบาย ใช้ชีวิตปกติได้บ้าง พอจะดูข่าว ดูโซเชียลได้บ้าง ทั้งนี้นายปัญญาเพิ่งรู้ว่ตัวเองก่อเหตุหน้าองค์กระแกะสลักที่เขาชีจรรย์ ตอนแรกคิดว่าเป็นรูปแกะสลักธรรมดา
“พอรู้ว่าเป็นพระ เขาก็กลัว เขากลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน ปืนไม่ลั่นตั้ง 2-3นัด” ผบ.ตร.กล่าวหลังสอบปากคำนายอ้วน

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา