นายกฯปลื้มจับ”เสี่ยแป้ง”อย่าแค่ดีใจ ต้องเช็คบิลปม”ร้องเรียน-สีกากีให้ซุกปีก”

14536

นายกฯปลื้มจับ”เสี่ยแป้ง”เร่งทวิตฯ อย่าแค่ดีใจ-ต้องสั่งเช็คบิล ปม”ร้องเรียน-สีกากีให้ซุกปีก”
อย่าหลงประเด็น  เร่งสืบสวนหาความจริงให้ปรากฏ ไม่ใช่แค่ประโคมข่าวรับตัวหวังกลบกระแสข่าวการเมือง


      ดูเหมือนว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะปลื้มสุดๆเมื่อได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่าเจ้าหน้าที่จับกุมนายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด นักโทษแหกคุกได้ที่ประเทศอินโดนีเซีย หลังหลบหนีนานกว่า 220 วัน
       เพราะทันทีที่ได้รับรายงานก็ โพสต์แอปพลิเคชั่น X  ระบุว่า”ได้รับรายงานจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า”แป้ง นาโหนด” นักโทษหนีคดี ถูกจับกุมตัวแล้ว โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานกับทางการอินโดนีเซียครับ”  

      สำหรับเบื้องหน้าเบื้องหลังในการจับกุม พ.ต.อ.ทวี ได้แจกแจงอย่างละเอียดผ่านสื่อทุกสำนัก รวมถึงการบินไปรับตัวเสี่ยแป้ง พร้อม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)และ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผู้ช่วยผบ.ตร.)รักษาการ  รอง ผบ.ตร.เพื่อประสานกับรับตัวกับตำรวจ

      พ.ต.อ.ทวี บอกว่าที่นำ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ไปด้วยเพราะในทางสืบสวนพบว่าในการหลบหนีของนายเชาวลิต มีการโยงใยถึงขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติที่ลักลอบเข้าไทยและอาเซียนด้วย  ผลการสืบสวนขยายผลกับแก๊งค้ายาเสพติดข้ามจะลงเอยแบบไหน สามารถสาวถึงระดับบิ๊กของขบวนการทั้งในไทยและอาเซียนหรือไม่คงต้องติดตาม แต่ประเด็นที่ทั้งกระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักอัยการสูงสุด ต้องเร่งทำความจริงให้ปรากฏ เกี่ยวกับเนื้อหาที่แป้ง นาโหนด อัดคลิปแฉว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมถึง 3 คลิป  เนื้อหาคลิปแรก บอกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องหนีการจับกุม พร้อมกับเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง อาทิ อัยการคนหนึ่งและตำรวจบางนาย คลิปที่ 2 เน้นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและคลิป 3 มีการตั้งคำถามถึงหลักเกณฑ์การให้ประกันตัวของศาล พร้อมตั้งคำถามถึงสาเหตุที่ตัวเองไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวมาสู้คดี พร้อมเปรียบเทียบกับคู่กรณีถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ แต่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว

  นอกจากนี้ นายเชาวลิต ทำหนังสือร้องเรียนเขียนด้วยลายมือ ส่งถึงนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี(ขณะนั้น) ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จำนวน 7 เรื่อง  โดยเรื่องแรกเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การประกันตัวของศาลที่ตัวเองไม่ได้ประกันตัวออกมาสู้คดี  เรื่องที่ 2 และ 3 การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของนายตำรวจบางนายเรียกรับเงินและยักยอกทรัพย์


  เรื่องที่ 4 และ 5 การขายสินค้าที่ไม่เป็นธรรมในเรือนจำ 2 แห่ง รวมถึงการทรมานนักโทษ เรื่องที่ 6 ให้รื้อคดีของอัยการคนหนึ่งกับพรรคพวก และเรื่องที่ 7 ระบุว่าอัยการระดับสูงเรียกรับเงิน 500,000 บาท แต่นายเชาวลิตรไม่ได้จ่ายจึงถูกฟ้องดำเนินคดีเพียงคนเดียว  ท้ายจดหมายนายเชาวลิตระบุว่าเขียนเพื่อทาวงความยุติธรรม หากได้รับความยุติธรรมพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง เนื้อหาในจดหมายและคลิปมีความใกล้เคียงกัน ซึ่งมีการระบุชื่อเจ้าหน้าที่ที่เรียกรับเงินของทั้งตำรวจและอัยการ  

  ดังนั้นเมื่อจับกุมเสี่ยแป้งได้แล้ว นายกรัฐมนตรี ต้องสั่งการให้กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด เร่งสอบสวนทำความจริงให้กระจ่างโดยเร็ว เพราะกระทบถึงความเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม มีพยานปากสำคัญคือเสี่ยแป้ง นาโหนด จึงเชื่อว่าคงกล้าที่จะยืนยันความจริงเพื่อเอาผิดกับบุคคลที่กล่าวหาไว้  


       นอกจากเช็คบิลตามที่นายเชาวลิต ร้องเรียนแล้ว นายกรัฐมนตรี ต้องสั่งสืบสวนสอบสวน ตำรวจที่คอยเป็นเกราะให้นายเชาวลิตร ผงาดบนเส้นทางเถื่อนด้วย เพราะระหว่างเสี่ยแป้งหลบหนี มีนักการเมืองใน จ.พัทลุง ปูดชื่อนายพล ก.แห่งภาค 9  เป็นแบ๊กให้เสี่ยแป้งในการแสวงผลประโยชน์ มาพร้อมกับเสียงนินทาในหมู่ตำรวจภาค 9 ว่า นายพล ก. มีนายพล จ. สนับสนุน เพราะเป็นนายตำรวจใจถึงเป็นขวัญใจของพวกธุรกิจสีเทา นายพล จ.ถูกใจเพราะสร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำ บางจังหวะถูกตั้งกรรมการสอบสวน เพราะอมเบี้ยเลี้ยงก็ช่วยรอดมาได้ นอกจากนี่ระหว่างหลบหนีมีนายตำรวจระดับ พ.ต.อ.และพ.ต.ท.คนสนิทของนายพล ก.เป็นหูเป็นตาให้ ทำให้ชุดจับกุมนอกพื้นที่หลงกล เพราะแจ้งที่กบดานคลาดเคลื่อน

        ดังนั้นเมื่อเสี่ยแป้ง นาโหนด กลับถึงเมืองไทย นายกรัฐมนตรีต้องสั่งเช็คบิลทั้ง 2 ส่วนไปพร้อมๆกัน เพราะตลอดเวลาที่เสี่ยแป้งหลบหนียังไม่มีการเช็คบิลกันเลย

ขข
          จึงถือว่าเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่รอพิสูจน์ว่านายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีน้ำยาพอที่จัดการแบบถอนรากถอนโคนหรือจะจบแค่โชว์ภาพจับ”เสี่ยแป้ง นาโหนด”ได้แล้ว คงต้องติดตาม อย่าหลงประเด็น  เร่งสืบสวนหาความจริงให้ปรากฏ  แต่สิ่งต้องขอชื่นชม คือตำรวจอินโดนีเซียที่จับกุม ไอ้แป้ง นาโหนด  ตำรวจ ราชฑัณ ปปส.ต้องจริงจัง หาตัวผู้อยู่เบื้องหลัง ของเคสนี้มาดำเนินคดี ให้ได้ถึงจะปิดเคส ไม่ใช่แค่ ต้องประโคมข่าวรับตัว เพื่อหวังให้กลบกระแสข่าว แรงๆทางการเมือง ไปวันๆ..!!!