สศก.คาดเดือนพ.ค.ผลผลิตปาล์มน้ำมันสู่ตลาด1.69ตัน
ปาล์มน้ำมันปีนี้ให้ผลผลิต 18 ล้านตัน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา คาด พ.ค.นี้ ผลผลิตจะออกสู่ตลาด 1.69 ตัน ขอความร่วมมือโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรที่นำผลผลิตมาจำหน่ายตรงเป็นลำดับแรก
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยถึงสถานการณ์ ปาล์มน้ำมันปี 67 ซึ่งการผลิตรวมทั้งประเทศ พบเนื้อที่ให้ผล 6.381 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 132,959 ไร่ หรือร้อยละ 2.13 ผลผลิต 18.121 ล้านตัน สำหรับเนื้อที่ให้ผล ภาพรวมทั้งประเทศคาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคใต้ เนื่องจากปาล์มน้ำมันที่ปลูกใหม่เมื่อปี 64 ซึ่งเป็นการปลูกแทนยางพารา และบางส่วนขยายพื้นที่ปลูกแทนพื้นที่นาและพื้นที่รกร้าง เริ่มให้ผลผลิตได้ในปีนี้ ทั้งนี้ การขยายเนื้อที่ปลูกปาล์มน้ำมันเมื่อปี 64 มีสาเหตุมาจากราคาปาล์มน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ดี ด้านผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผลและผลผลิตรวมทั้งประเทศคาดว่าลดลง เนื่องจากในช่วงปลายปี 65 จนถึงพ.ค. 66 ต้นปาล์มน้ำมันได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง ปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอ ทำให้ทางใบบางส่วนพับ ต้นปาล์มน้ำมันไม่สมบูรณ์ การออกทะลายที่จะเก็บในปี 67 ลดลง และในช่วงเดือนพ.ย.66 จนถึงต้นปี 67 คาดปรากฏการณ์เอลนีโญ อาจมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอต่อความต้องการของต้นปาล์มน้ำมัน ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำหนักต่อทะลายลดลง อย่างไรก็ตาม ผลผลิตปีนี้จะออกสู่ตลาดมากสุดตั้งแต่เดือน มี.ค.- มิ.ย. คิดเป็นร้อยละ 38 ของผลผลิตทั้งหมด โดยเดือนพ.ค. คาดว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดประมาณ 1.694 ตัน ทั้งนี้ ราคาผลปาล์มน้ำมันทั้งทะลายคละที่เกษตรกร ขายได้สัปดาห์แรกของเดือนพ.ค. เฉลี่ยกิโลกรัมละ 4.12 บาท
ขณะที่แนวทางบริหารจัดการของภาครัฐ โดยคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) มอบหมายให้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์ด้านการผลิต การตลาด ราคา อย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการให้ปริมาณน้ำมันปาล์มภายในประเทศเกิดความสมดุล รวมถึงกำหนดแนวทางและมาตรการต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ได้เฝ้าระวังและมีแนวทางในช่วงเดือนที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก โดยให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มปิดดำเนินการในช่วงวันหยุดของเดือนเม.ย.67 เพื่อไม่ให้มีการกระจุกตัวในการรับซื้อผลผลิตของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มช่วงก่อนและหลังวันหยุด และประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรับทราบโดยทั่วกัน รวมทั้งขอความร่วมมือให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรที่นำผลผลิตมาจำหน่ายให้แก่โรงงานโดยตรงเป็นลำดับแรก และพิจารณาจัดช่องทางพิเศษสำหรับเกษตรกรแยกออกจากผู้ประกอบการลานเท รวมถึงรับซื้อผลปาล์มน้ำมันในราคาที่สอดคล้องกับราคาน้ำมันปาล์มดิบและไม่ให้มีการกดราคาหรือปฏิเสธการรับซื้อผลปาล์มของเกษตรกร โดยให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่เป็นที่ตั้งของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มติดตามและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ยังเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนคำนึงถึงเรื่องการทำปาล์มคุณภาพ เพื่อไม่ให้อัตราสกัดน้ำมันลดลง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันของเกษตรกรและต้นทุนในการผลิตของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มได้.
#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#สศก