โชเฟอร์ตุ๊กๆสุดแสบ เรียกเก็บค่าโดยสารเกินจริง ทำลายภาพพจน์ท่องเที่ยวยับ

824

โชเฟอร์ตุ๊กสุดแสบ เรียกเก็บค่าโดยสารเกินจริง ทำลายภาพจน์ท่องเที่ยวยับ“ธนิยะ ไป อโศก”เรียกเก็บ 6 พันบาท

เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2567 ผู้สื่ิอข่าวรายงานว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อโชเชียล พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สั่งการให้ให้ พ.ต.ท.ขวัญพล เพ็งเดือน สวญ.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.1 ดำเนินการติดตามเหตุที่ปรากฎตามข่าวโซเชียล กรณี ผู้ขับขี่รถโดยสารตุ๊กๆ เรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตรา

ต่อมาได้ทราบว่า ผู้ต้องหาตามปรากฎในข่าว คือ นายภูมิมเรศ ผารัตน์ อายุ 29 ปี ที่อยู่ 9 หมู่ 6 ต.สามขา อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด กรมขนส่งทางบก ร่วมกับ ตำรวจท่องเที่ยวส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.1 ได้เชิญตัว ผู้ต้องหา ไปยัง กรมการขนส่งทางบกและได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย จำนวน 2 ข้อหา
(1.)เก็บค่าโดยสารเกินอัตรา (ปรับ 2,000 บาท) (2.)แต่งกายไม่เรียบร้อย( ปรับ 500 บาท) ตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 96,101 รวมปรับ 2,500 บาทและลงโทษทางปกครอง 2 ข้อ (1.)พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน (2.)อบรมระเบียบจริยธรรมคนขับรถสาธารณะ 3 ชั่วโมงในส่วนของ ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.1 ได้ดำเนินการบันทึกประวัติบุคคลเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับกรณีดังกล่าว นับเป็นอีกหนึ่งกระแสดราม่าที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ หลังจากมีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง ใช้ชื่อว่า Ryo Ishii ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ หรือแพลตฟอร์ม X เล่าประสบการณ์สุดงงที่ประเทศไทย โดยเขียนข้อความแปลไทยระบุว่า

“ผมมาธนิยะจากอโศก โดยรถตุ๊กๆ ค่าลง 1,500 แถมคนละ 1,500 เราไปกัน 4 คน รวมเป็น 6,000” พร้อมโพสต์รูปภาพรถตุ๊กๆ คันที่ตนเองและกลุ่มเพื่อนได้เรียกใช้บริการ ภายหลังจากที่โพสต์ถูกเผยแพร่ออกไป งานนี้ทำเอาชาวเน็ตทั้งต่างประเทศและชาวเน็ตไทย เข้าไปคอมเมนต์แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ถูกเรียกค่าบริการสุดโหด พร้อมพากันตัดพ้ออยากให้หน่วยงานรัฐช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้

ทั้งนี้ ชาวเน็ตไทยหลายคนก็แห่เอ็นดู Ryo Ishii เพราะมีชาวเน็ตต่างไปขุดคุ้นโปรไฟล์ว่าเขาคือใครกัน ทำไมมีแต่คนกดแชร์และรีโพสต์ของเขาล้นหลาม ปรากฏว่าหน้าโปรไฟล์ระบุว่า ตัวเองเป็นนักธุรกิจที่มาทำงานในประเทศไทยกว่า 7 ปี และชื่นชอบประเทศไทยมาก ทั้งรักช้างไทยและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของไทย เพราะ Ryo Ishii ถึงกับเซฟรูปภาพแบรนด์แอลกอฮอล์ของไทย ตั้งเป็นภาพปกอีกด้วย

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์