“พัชรวาท” มอบ “ต้นหัวใจเศรษฐี” ให้ นายกเศรษฐา พร้อมหอบไม้มหามงคล-ไม้ประจำจังหวัด แจก ครม. เชิญชวนประชาชนรับกล้าไม้จากศูนย์เพาะชำทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันสร้างพื้นที่สีเขียวช่วยลดโลกร้อน เนื่องในวันต้นไม้ประจำปี 2567
ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี วันที่ 14 พ.ค. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมด้วยนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ นำกล้าไม้มหามงคล และกล้าไม้ประจำจังหวัด มามอบให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์วันต้นไม้ประจำปีของชาติ ปี 2567 และรณรงค์ให้มีการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยลดโลกร้อน
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ทส. โดยกรมป่าไม้ ได้จัดเตรียมกล้าไม้ “ต้นหัวใจเศรษฐี” เพื่อมอบให้แก่นายกฯเศรษฐา พร้อมกับนำกล้าไม้มงคล และกล้าไม้ประจำจังหวัดของรัฐมนตรีแต่ละท่าน มามอบให้ด้วย เพื่อช่วยกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้มีการปลูกต้นไม้ เพิ่มมากขึ้น เป็นการปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ ร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูป่า และเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของต้นไม้ เพื่อให้เกิดความรักความหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ รวมถึงช่วยป้องกันและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ลดมลภาวะจากฝุ่นและหมอกควัน ช่วยลดภาวะโลกร้อน
ด้านนายสุรชัย กล่าวว่า กรมป่าไม้ ได้เตรียมกล้าไม้มหามงคล ที่ได้ทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ณ กรมป่าไม้ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ทั้งนี้ กล้าไม้ดังกล่าว อาทิ หัวใจเศรษฐี ล่ำซำ จิกทะเล กระบก พฤกษ์ ทองกวาว จิกเศรษฐี ปีบ สารภี นนทรีป่า กันเกรา ขานาง ยางนา แผ่บารมี ประดู่ป่า สะเดา พะยอม กาฬพฤกษ์ มะขาม และต้นแซะ เป็นต้น นอกจากนี้ กรมป่าไม้ยังได้เตรียมกล้าไม้อีกจำนวน 720 ต้น เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาร่วมงานอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ทุกสำนัก และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขา ยังได้ร่วมกันจัดกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ปี 2567 ในวันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2567 โดยพร้อมเพรียงกัน และในส่วนกลางจะมีการถ่ายทอดสดการจัดกิจกรรมผ่านทางเพจเฟซบุ๊กกรมป่าไม้ สำหรับประชาชนสามารถร่วมกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ได้ด้วยการไปติดต่อขอรับกล้าไม้ ณ หน่วยงานเพาะชำกล้าไม้ของกรมป่าไม้ทั่วประเทศ เพื่อนำกลับไปปลูกตามที่พักอาศัย หรือพื้นที่สาธารณประโยชน์อื่น ๆ เพื่อร่วมเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ต้นไม้ให้คงอยู่เป็นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ทรงคุณค่าตลอดไป