หากวัดกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 2 จากความรู้สึกของชาวบ้านทั่วไป พออนุมานได้ว่าไม่ค่อยแตกต่างกับการไม่ปรับครม.แต่อย่างใด เพราะดูโผ ครม.แล้วเป็นเพียงการสลับตำแหน่งเพื่อบริหารอำนาจและต้องการตอบแทนให้บุคคลที่สนองการทำงานให้กับเจ้าของพรรคมากกว่า รวมถึงต้องการจะผลักดันให้นโยบายแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาท เป็นจริงตามที่ประกาศไว้ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลและนักวิชาการที่ห่วงว่าจะเกิดภาระหนี้สินของประเทศตามมาภายหลัง
แต่สำหรับความคาดหวังของชาวบ้านแล้ว จากที่เคยตั้งความหวังว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย จะช่วยแก้ปัญหารายได้ให้เพียงพอกับรายจ่าย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตกลับรู้สึกสิ้นหวัง
เพราะหลายๆปัญหาที่คนระดับกลางถึงรากหญ้าเผชิญอยู่แทบจะไม่ได้รับการแก้ไขเลย โดยเฉพาะปัญหารายได้ที่ไม่เพียงพอกับรายจ่าย แต่ละเดือนชักหน้าไปถึงหลัง สินค้าพาเหรดกันขึ้นราคาแบบกู่ไม่กลับ ราคาน้ำมันที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคุยโวไว้จะรื้อระบบโครงสร้างน้ำมัน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้น้ำราคาถูกช่วยลดค่าครองชีพ แต่ราคาน้ำมันทุกชนิดกลับพุ่งแบบฉุดไม่อยู่ ยิ่งชาวบ้านที่ยังตอนผ่อนชำระบ้าน รถยนต์หรือสินค้าอื่นๆต่างอยู่ในอาการหลังแอ่นต้องภาระดอกเบี้ยที่ทะยานขึ้น เงินผ่อนแต่ละเดือนถูกดอกเบี้ยกินไปมากกว่าเงินต้น แต่รัฐบาลกลับทำอะไรไม่ได้เลย ต้องปวดใจหนักเมื่อเห็นผลประกอบการของธนาคาร 11 แห่งทั้งของรัฐและเอกชนไตรมาสแรกของปี 2567 อย่างน้อย 4 แห่งพุ่งกำไรทยานกว่าหมื่นล้าน อีก 4 แห่งหลายพันล้าน อีก 3 แห่งกว่าห้าร้อยล้านบาท
ขณะเดียวกันเกษตรกรและชาวบ้านทั่วไปต้องเผชิญปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ชาวสวนที่ปลูกผลไม้ยืนต้นไม้ว่าจะเป็นทุเรียน ลำไย เงาะ ลิ้นจี้ ต่างประสบปัญหาขาดน้ำหล่อเลี้ยง หลายพื้นต้องปล่อยให้พืชสวนยืนต้นตาย หลายคนต้องสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะต่างลงทุนด้วยนับล้านบาทกำลังจะได้ผลผลิตออกจำหน่ายกลับยืนต้นตาย หากชาวสวนคนไหนสายป่านยาว ลงทุนซื้อน้ำในราคาสูงเพื่อนำไปรดป้องกันไม่ให้ยืนต้นตาย ชาวสวนที่สายป่านสั้นได้แต่ยืนดูพืชสวนยืนต้นตายด้วยน้ำตานองหน้า
ส่วนชาวบ้านทั่วไปประสบปัญหาขาดแคลนน้ำบริโภค ต้องควักเงินซื้อน้ำในราคาสูง ชาวบ้านที่อาศัยบนเกาะต่างๆเริ่มขาดแคลนน้ำหนักอย่างหนัก เช่น เกาะสมุยสุราษฎร์ธานี ต้องรอซื้อน้ำจากรถบรรทุกน้ำ ทั้งที่ในบ้านมีทั้งบ่อบาดาลและบ่อที่ขุดขึ้นเอง แต่ละบ่อมีน้ำใช้ไม่เพียงพอ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ชาวบ้านต่างตั้งคำถามไปถึงรัฐบาลว่าจะหาช่องทางช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนได้บ้าง เพราะลำพังรายได้แทบจะไม่พอใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
อีกประเด็นหนึ่งที่ชาวบ้านเริ่มห่วงว่าจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต นั่นคือบรรดาแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะแรงชาวพม่า รุกคืบเป็นเจ้าธุรกิจเปิดแผงค้าขายเป็นของตัวเองกันจำนวนมาก ทั้งที่กฎหมายห้ามไม่ให้แรงงานต่างด้าวเป็นเจ้าของธุรกิจ หากรัฐบาลจะตรวจสอบเพื่อป้องกันสามารถหาดูได้ไม่ยาก เพราะตลาดนัดเกือบทุกแห่งมีชาวพม่าเซ้งแผงขายของเองจำนวนมาก บางตลาดมีเกินครึ่งของแผงที่เปิดขาย ยิ่งในพื้นที่สมุทรสาคร ถึงขั้นเป็นตัวแทนขายอาหารทะเลส่งให้ลูกค้าคนไทยหรือเปิดร้านอาหารซีฟู้ดแบบไม่หวั่นเกรงกฎหมาย บางพื้นที่เช่าตึกแถวเปิดเป็นร้านอาหารกึ่งบันเทิง จะให้บริการเฉพาะชาวพม่าเท่านั้น ซึ่งความห่วงใยนี้มีประชาชนหลายกลุ่มออกสื่อโซเชียลในรูปแบบต่างๆเพื่อสื่อถึงรัฐบาลให้เร่งแก้ไข และช่วงนี้ภายในประเทศพม่าเกิดศึกสงคราม ต่างหวั่นเกรงกันว่าชาวพม่าจะทะลักเข้าประเทศไปอาศัยกับญาติที่เดินทางเข้ามาทำงานอยู่เกือบทุกหัวระแหงของประเทศไทย ถ้ารัฐบาลยังไม่คิดแก้ปัญหาด้วยการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย เร่งดำเนินการแก้ไข โอกาสที่พม่าจะยึดเมืองแบบสมุทรสาคร เป็นไปได้สูง เหตุการณ์พม่ารุกทำธุรกิจเองจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายเอาจริงเอาจัง แต่กลับปล่อยปละเลยอาจเป็นเพราะแรงงานต่างด้าวเหล่านี้ติดสินบนส่งส่วยแบบรายเดือนก็เป็นได้
นี่คือปัญหาเพียงบางส่วนที่ประชาชนตั้งแต่ระดับกลางถึงรากหญ้ากำลังเผชิญอยู่ ยังไม่รวมถึงปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจนประชาชนสัมผัสได้ว่ามีการแก้ไขอย่างจริงทั้งที่รัฐบาลวางไว้เป็นวาระแห่งชาติ
ข้อความที่นำเสนอนี้”จอมมารน้อย”รับฟังมาจากประชาชนที่ประสบปัญหาโดยตรง บอกเล่าด้วยความรู้สึกที่ข่มขื่น และผิดหวัง เพราะเคยตั้งความหวังไว้สวยหรูว่ารัฐบาลจะช่วยฉุดให้พ้นกับการดำรงชีวิตแบบปากกัดตีนถีบได้
จึงฝากเสียงสะท้อนไปถึงนายกรัฐมนตรีว่าช่วยใช้เวลาที่ว่างเว้นจากทัวร์ต่างประเทศหันมาแก้ปัญหาให้ประชาชนคนธรรมดาอย่างพวกเราบ้าง เพราะตลอดเกือบ 10 เดือนที่บริหารไม่ได้เกิดความรู้สึกว่าไม่มีนโยบายไหนที่บรรลุเป้าหมายและสัมผัสได้เลย !!!