วันที่ 2 พ.ค.67 พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์
ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 มีหนังสือคำสั่งกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 ที่ 85/2567 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3
ด้วยกรณีสื่อสารในสื่อสังคมออนไลน์ (อัมรินทร์ทีวี) พาดพิงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรณี สารวัตรเฟิร์นคนสนิทของมาดามไก่ โดยอ้างเรื่องการมีอำนาจใน ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรปราการ หากใครอยากสบายให้วิ่งหาสารวัตรเฟิร์น ซึ่งทนายตั้มโยงสารวัตรเฟิร์นทำไมมีเงินมากมาย มาร่วมทำธุรกิจกับมาดามไก่ ใช่เงินเกี่ยวเนื่องการแต่งตั้งไหม หรือการเก็บหน้าด่านเข้าตัวเอง 90 ส่วน 10 คนทำงานเอาไปแบ่งกันและสารวัตรเฟิร์น เคยมาทำงานบ้างไหม นั้น
จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2566 ข้อ 6 (2) จึงให้ ว่าที่ พ.ต.ท.หญิง พิชญ์สิณี วัฒนจึงโรจน์ สารวัตร ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรปราการ ปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติภารกิจตามที่ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 มอบหมาย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567
ผบก.ตม.3 ตั้งรองผบก.ตม.3 เป็นประธานตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังสั่งย้ายสารวัตรหญิง คนสนิทมาดามดัง ปมทนายตั้มแฉข้อมูลทำธุรกิจร่วมกัน
จากกรณีพล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (ผบก.ตม.3) ลงนามในคำสั่งกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 ที่ 85/2567 สั่งย้าย ว่าที่ พ.ต.ท.หญิง พิชญ์สิณี สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรปราการ ให้มาปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม หลังปรากฏชื่อถูกกล่าวหาเรื่องการมีอำนาจในตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรปราการ หากใครอยากสบายให้วิ่งหาสารวัตร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
2 พ.ค.67 พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (ผบก.ตม.3) เปิดเผยความคืบหน้าว่า หลังจากนี้จะต้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ารายละเอียดมีประเด็นไหนที่เขาเกี่ยวข้องถูกพาดพิงต่างๆ จะต้องตรวจสอบให้ครบทุกมิติ ทั้งนี้ตนเองได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งกรอบระยะเวลาการตรวจสอบขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ทั้งนี้สามารถขยายได้ตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดอาจใช้เวลา 30 วัน หรือแล้วแต่ระเบียบ โดยได้ตั้งให้ พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (รองผบก.ตม.3) เป็นประธานการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น
