ตอน โพธิสัตว์

23062

โพธิสัตว์ผู้พำนักในทะเลมรกตและมีอายุกว่า 84,000 ปี กวนซีอิมเขียวมรกต หลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม อ่านสนุกแบบมีทั้งศรัทธาและพาณิชย์ไปกับ คอลัมน์พระบ้าน by ต้นคนชอบพระ

นโมกวนซีอิมผ่อสัก

เจ้าแม่กวนอิมหรือกวนซีอิมเป็นการเรียกพระนามตามแบบจีน ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร โดยสาเหตุที่เรียกแบบนั้นมีนักวิชาการชาวตะวันตกเชื่อว่าการที่เรียกพระนามของอวโลกิเตศวรว่า กวนซีอิม นั้น เป็นเพราะชาวจีนในสมัยนั้นสับสน การแปลภาษาสันสกฤตตรงคำว่า “อิศวร” ต่อท้ายพระนาม ในภาษา สันสกฤต พระนามของพระองค์แปลว่า “ผู้ยิ่งใหญ่ที่มองลงมา” แต่จีน กลับแปลว่าผู้ยิ่งใหญ่ที่เงี่ยหูฟังความทุกข์ของโลก คงจะเนื่องมาจากสับสนคำ ว่า “อิศวร” กับคำว่า “สวร” ซึ่งแปลว่าเสียง จึงเรียกพระนามของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรว่า กวนซีอิม ที่หมายความว่า “พระผู้เงี่ยโสตสดับความทุกข์ของสรรพสัตว์”

( รูปพระโพธิสัตว์กวนอิม )

แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้ “มอง” ลงมายังโลก หรือ “เงี่ยหู” ฟังเสียงทุกขเวทนาของเหล่าสัตว์โลกก็ตาม ความหมายหลักๆก็เหมือนกันคือเป็นพระโพธิสัตว์ที่ทรงมีพระเมตตากว้างใหญ่ไพศาล การจะเป็นพระโพธิสัตว์นั้น พระธัมมปาละ ระบุไว้ใน อรรถกถาสโมทานกถา ว่า พระโพธิสัตว์มี 3 ประเภท คือ

(1) พระมหาโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญบารมีเพื่อให้ได้ตรัสรู้ เป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า

(2)พระปัจเจกโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญบารมีเพื่อให้ได้เป็น พระปัจเจกพุทธเจ้า

(3)พระสาวกโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญบารมีเพื่อให้ได้เป็นพระ อนุพุทธะ

และในอรรถกถาเถรคาถา (ในปรมัตถทีปนี) พระธัมมปาละยัง จำแนกแยกย่อยออกมาเป็นอีก 3 ประเภท คือ

(1) ปัญญาธิกโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ที่สร้างบารมีโดยใช้ปัญญา เป็นตัวนำ ระยะเวลาการสร้างบารมีทั้งหมด 20 อสงไขยกับเศษ แสนมหากัป คือตั้งความปรารถนาว่าจะเป็นพระโพธิสัตว์ อยู่ในใจอย่างตั้งมั่นเป็นเวลา 7 อสงไขย จากนั้นจึงออกปากกล่าววาจาต่อหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้าในกาลสมัยนั้นๆ เป็นเวลา 9 อสงไขย รวมเป็น 16 อสงไขย และได้รับพุทธพยากรณ์ครั้งแรกให้เป็น พระนิยตโพธิสัตว์ จนเมื่อเหลือเวลาอีก 4 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป จะเป็นการสร้างบารมีอย่างยิ่งยวดและเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างนี้จะได้รับการพยากรณ์จากพุทธองค์ของแต่ละยุคซ้ำมาตลอดจนถึงสมัยพุทธภูมิของท่าน

(2)สัทธาธิกโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ที่สร้างบารมีโดยใช้ศรัทธาเป็นตัวนำ ระยะเวลาการสร้างทานบารมี ทั้งหมด 40 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป คือมีความปรารถนาอยู่ในใจเป็นเวลา 14 อสงไขย หลังจาก นั้นจึงออกปากกล่าววาจาต่อหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้าเป็นเวลา 18 อสงไขย รวมเป็น 32 อสงไขย และได้รับพุทธพยากรณ์ครั้งแรกเป็น พระนิยตโพธิสัตว์ เมื่อเหลือเวลาอีก 8 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป จะเป็นการสร้างบารมีอย่างยิ่งยวดและเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งระหว่างการบำเพ็บสะสมบารมีนี้จะได้รับพยากรณ์ซ้ำมาตลอดเมื่อได้พบกับพระพุทธเจ้าของแต่ละยุคจนกระทั่งถึงสมัยพุทธภูมิของท่าน

(3)วิริยาธิกโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ที่สร้างบารมีโดยใช้วิริยะเป็นตัวนำ ระยะเวลาการสร้างบารมี ทั้งหมด 80 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป คือตั้งความปรารถนาอยู่ในใจเป็นเวลา 28 อสงไขย หลังจาก นั้นจึงออกปากกล่าววาจาความปรารถนาต่อหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้าของแต่ละยุคเป็นเวลา 36 อสงไขย รวมเป็น 64 อสงไขย และจะได้รับพุทธพยากรณ์ครั้งแรกเป็น พระนิยตโพธิสัตว์ จนเมื่อเหลือเวลาอีก 16 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป จะเป็นการบำเพ็ญบารมีอย่างยิ่งยวดและเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังได้รับพยากรณ์ซ้ำมาตลอดเมื่อได้พบกับ พระพุทธเจ้าของแต่ละยุค จนถึงสมัยพุทธภูมิของท่าน

สรุปคร่าวๆว่าการจะเป็นพระโพธิสัตว์ได้นั้นก่อนอื่นต้องมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าและค่อยๆใช้เวลาในการสั่งสมบุญบารมีนับล้านปี ด้วยคุณธรรมความดีและการสั่งสมบารมีนับอนันต์ของท่านทำให้มีผู้คนมากมายนับถือเลื่อมใสศรัทธาและพระโพธิสัตว์ที่เรารู้จักมากที่สุดคือ พระโพธิสัตว์กวนอิมอวโลกิเตศวร ซึ่งเอาจริงๆน่าจะไม่ได้มีองค์เดียว ที่เราเข้าใจมาตลอดว่าคือ องค์หญิงเมี่ยวซ่าน หรือเจ้าแม่กวนอิมนั้นจริงๆแล้วอาจจะเป็นหนึ่งในผู้บำเพ็ญบารมีหรือเป็นชาติหนึ่งของการสะสมทานบารมีของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรก็ได้ แต่กระนั้นก็ไม่มีผิดถูกในการเลื่อมใสศรัทธา เพราะไม่ว่าพระโพธิสัตว์ท่านจะมาในแบบไหนก็เป็นการมาดีมิได้มาร้ายแน่นอน สำหรับชาวไทยสายมูอย่างพวกเราหลายท่านคงเคารพนับถือองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมกันและอยากเสาะหาวัตถุมงคลในรูปแบบองค์กวนอิมที่มั่นใจได้ว่าถ้านำติดตัวไปสบายใจได้แน่ วันนี้ทางผมเลยจะขอแนะนำของดีราคาไม่แรง แต่แพงด้วยพุทธคุณ อย่างเหรียญเจ้าแม่กวนอิมเขียวของหลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม อยู่ใน กทม.เรานี่เอง

( รูปหลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม กทม. )

หลวงพ่อหล่ำ สิริธัมโม หรือ พระครูสิริธรรมรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม ถนนลาดพร้าว 64 แขวงและเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ท่านเป็นพระเกจิที่มีวัตรปฏิบัตอันเคร่งครัดและเปี่ยมด้วย คุณธรรม มีจิตที่เปี่ยมด้วยความเมตตาและมักเป็นที่พึ่งของชาวบ้านกับผู้เลื่อมใสศรัทธา

หลวงพ่อกล่ำท่านมีนามเดิมว่า หล่ำ แซ่เจ็ง เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน เกิดเมื่อวันที่ 31 ส.ค.2472 ที่บ้านหมู่ ที่ 1 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ บิดา-มารดาชื่อ นาย จุ้ยเตียง แซ่เจ็ง และนางปิ่น แซ่ซึม

หลวงปู่หล่ำเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเผย วัดบางหญ้าแพรก และได้รับการสืบทอดวิชาของหลวง ปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า กับอาจารย์พานต์ นนทตา และยังเป็นศิษย์เอกของ หลวงพ่อ ครื้น วัดสังโฆ จ.สุพรรณบุรี

ตัวหลวงพ่อหล่ำท่านมีความขยันใฝ่เรียนมาก หากคราใดว่างจากการธุดงค์จะนำสมุดข่อยโบราณมาศึกษา ในช่วงที่หลวงพ่อเผยชราภาพท่านได้มอบหมายหน้าที่ทั้งหมดให้หลวงพ่อหล่ำเป็นผู้ดำเนินการแทน กระทั่งการสร้างและเสกวัตถุมงคลของหลวงพ่อเผย

อาจารย์อีกท่านของหลวงพ่อหล่ำคือหลวงพ่อ ครื้น วัดสังโฆ จังหวัด สุพรรณบุรี เจ้าตำรับวัตถุมงคลรูปแบบตุ๊กแก หลวงปู่หล่ำถือได้ว่าเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ หลวงพ่อครื้นท่านได้ถ่ายทอดวิทยาคมและการสร้างเครื่องรางของขลัง อาทิ การสร้างยันต์ ผ้า ประเจียด ตะกรุดนานาชนิด โดยเฉพาะวิชาที่เลื่องชื่อของหลวงพ่อครื้น คือ วิชาสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางตุ๊กแก

หลวงพ่อครื้นเคยให้หลวงปู่หล่ำเสกเครื่องรางตุ๊กแก โดยหลวงพ่อครื้นท่านนั่งสมาธิคุมอยู่ด้านหลัง ในครั้งนั้นหลวงพ่อครื้นเอ่ยปากชมว่า “หล่ำทำได้เหมือนพ่อเลยนะ” นับแต่คราวนี้น หลวงปู่หล่ำได้รับมอบหมายให้เสกเครืีองรางตุ๊กแกแทนหลวงพ่อครื้นอยู่เรื่อยๆ
จวบจนหลวงพ่อครื้นละสังขาร หลวงปู่หล่ำย้ายไปพำนักที่วัด ไกรสีห์น้อย อยู่ได้ระยะหนึ่งญาติโยมที่วัดคลองบางปิ้ง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นิมนต์ให้ท่านมาช่วยพัฒนาวัดท่านก็รับนิมนต์ไปช่วยพัฒนาวัดคลองบางปิ้งอยู่ 2 พรรษา จนวัดคลองบางปิ้งมีความเจริญ ต่อมาได้รับนิมนต์ให้มาช่วยสร้างวัดสามัคคีธรรม แขวงวังทองหลาง ที่เพิ่งเริ่มสร้างเมื่อปีพ.ศ.2510 จนวัดเริ่มเป็นปึกแผ่นมั่นคง ในปีพ.ศ.2522 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งให้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามที่พระครูสิริธรรมรัต ท่านอยู่วัดสามัคคีธรรมช่วยสงเคราะห์ญาติโยมยาวนาน จนเมื่อวันศุกร์ที่ 22 มี.ค. ปีพศ.2562 เวลา 03.40 น. หลวงพ่อกล่ำท่านมรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 90 ปี 70 พรรษา

( รูปเหรียญเจ้าแม่กวนอิมเขียว หลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม )

ในส่วนวัตถุมงคลหลวงพ่อหล่ำท่านสร้างไว้มากมายแต่ที่มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับในวงการ จะประกอบไปด้วย เครื่องรางรูปแบบตุ๊กแก เบี้ยเศรษฐี วัตถุมงคลรูปแบบเจ้าแม่กวนอิมเขียว ซึ่งวัตถุมงคลเจ้าแม่กวนอิมเขียวนี้เกิดจากการที่หลวงพ่อหล่ำท่านได้ประสบพบเจอองค์พระแม่กวนอิมเขียวในนิมิต พระนามว่า “เจ้าแม่กวนอิมหน้าไฮ้” มีกายสีเขียวมรกต พำนักอยู่ในทะเลสีเขียว ใบหน้างาม มือถือพัด ในนิมิตเจ้าแม่ท่านบอกว่าท่านอยู่มาถึง 84,000 ปี ท่านมาปรากฏให้เห็น เพราะต้องการให้หลวงพ่อหล่ำช่วยดวงวิญญาณดวงหนึ่งที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ เป็นเวลานานถึง ๓๐ ปี แต่หลวงพ่อหล่ำท่านบอกว่า ท่านไม่รู้จะช่วยอย่างไร เจ้าแม่ได้บอกว่า ท่านก็ช่วยเหมือน ที่ท่านเคยช่วยใครต่อใครนั่นแหละ หลังจากที่หลวงพ่อหล่ำแจ้งไปทางญาติของดวงวิญญานนั้น ญาติผู้ตายได้แย้งว่าก็ได้ทำกงเด็ก ทำบุญทำทาน ไปให้อย่างมากมายแล้ว ทำไมถึงไม่ได้รับ หลวงพ่อหล่ำท่านก็เลยให้ไปทำตามวิธีของท่าน จนวิญญาณนั้นก็ได้รับผลบุญดังที่ตั้งใจ เหรียญเจ้าแม่กวนอิมเขียวรุ่นนี้ ลูกศิษย์จากประเทศสิงค์โปร์เป็นผู้จัดสร้างมาถวาย ด้วยความเมตตาบารมีและความเข้มขลังของพลังแห่งจิตของหลวงพ่อหล่ำ ทำให้มีผู้เลื่อมใสศรัทธาทั้งในไทยและต่างชาติ อันเป็นการการันตีถึงพุทธคุณเทวาคุณที่หลวงพ่อหล่ำท่านได้ประจุไว้ในวัตถุมงคลของท่านเป็นอย่างดี แถมมีราคาเช่าหาที่จับต้องได้ น่าหามาไว้ใช้ติดตัวหรือหรือจะเก็บไว้เพื่ออนาคตก็ไม่ผิดหวังแน่ครับ

คราวหน้ามาลุ้นกัน ว่าจะนำเสนอองค์ไหนหรือตำนานอะไรครับ

เขียนโดย ต้น คนชอบพระ

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก สื่อโซเซี่ยล ครับ
ปล. หากมีวัด ศาสนถาน โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯใดที่ต้องการประชาสัมพันธ์การขายวัตถุมงคลหรือบริจาคเพื่อการกุศลอย่างแท้จริง ทางคอลัม์พระบ้าน ยินดีประชาสัมพันธ์ให้ฟรีครับ
สนใจลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ ติดต่อ 0818214442 ต้น