หนุนใช้แมลงโปรตีนBSFแทนอาหารสัตว์ลดต้นทุน

344

สวก. ผนึกกำลัง BEDO เขย่าวงการอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไทย ดัน“แมลงโปรตีน BSF” ขึ้นเทรนด์ธุรกิจใหม่ ลดต้นทุนอาหารสัตว์ กำจัดขยะอินทรีย์

สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. สนับสนุนทุนด้านการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ให้กับสํานักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือเบโด้(BEDO) ขยายผลการถ่ายทอดองค์ความรู้วิธีเลี้ยงแมลงโปรตีน Black Soldier Fly (BSF) สำหรับเป็นอาหารสัตว์โปรตีนสูงแก่เกษตรกรและชุมชน โดยเฉพาะด้านปศุสัตว์และประมง ชูจุดเด่นลดต้นทุนอาหารสัตว์ โปรตีนสูง เลี้ยงง่าย โตไว ต้นทุนการเลี้ยงต่ำ ขยายพันธุ์เร็ว สามารถย่อยสลายขยะอินทรีย์ได้ภายใน 14 วัน ช่วยลดรายจ่ายและสร้างรายได้ในระดับชุมชน ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม อย่างสมดุลและยั่งยืน



ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผอ.สวก. เปิดเผยว่า จากแนวโน้มของประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการเนื้อสัตว์เพิ่มมากขึ้น ทำให้ราคาอาหารสัตว์และวัตถุดิบการผลิตอาหารสัตว์ทั้งปลาป่น ข้าวโพดและถั่วเหลือง ในตลาดขยับราคาสูงขึ้นกว่า 30 – 40 % สอดคล้องกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ที่คาดการณ์ความต้องการอาหารสัตว์ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 60 – 67 เฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 20 ล้านตันต่อปี ถึงแม้อุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ จะมีความพยายามเพิ่มปริมาณการผลิต แต่ยังคงติดปัญหาต่าง ๆ อาทิ การขยายพื้นที่เพาะปลูก การใช้ปุ๋ย แหล่งน้ำ แรงงาน ฯลฯ จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์จำเป็นต้องมองทางเลือกใหม่ที่ยั่งยืน การผลิตอาหารสัตว์จากแมลงจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป จากรายงานพบแมลงถูกใช้เป็นอาหารโปรตีนสำหรับสัตว์น้ำประมาณ 194,000 ตัน ในปี 63 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี



สวก.มุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรเป็นอันดับต้นๆ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานสากล พร้อมยกระดับและพัฒนาศักยภาพให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางภาคเกษตร และอาหารของโลก ด้วยการส่งเสริมให้เกษตรกรนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาทำเกษตรมูลค่าสูงมากยิ่งขึ้น ทำน้อยแต่รายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ ที่มอบนโยบายให้หน่วยงานภายใต้สังกัดเร่งเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไทย 3 เท่าภายใน 4 ปี จึงได้สนับสนุนทุน RU ให้กับ เบโด้ เพื่อดำเนินโครงการ การขยายผลการถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตแมลงโปรตีนสําหรับเป็นอาหารสัตว์ เพื่อลดต้นทุนการผลิต สร้างรายได้ในระดับชุมชน และจากผลการดำเนินโครงการพบสามารถสร้างวิทยากรเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ในระดับพื้นที่จากมหาวิทยาลัยราชภัฎ 10 แห่งแก่เกษตรกร และผู้สนใจในพื้นที่ 22 จังหวัด รวม 713 คน ให้สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้และช่วยลดต้นทุนด้านอาหารได้ 50%


ด้าน ดร.ธนิต ชังถาวร รองผอ.เบโด้ กล่าวในฐานะหัวหน้าโครงการฯ ว่า แมลงโปรตีน BSF ประเทศไทยยังรู้จักและใช้ประโยชน์น้อยมาก BSF เป็นแมลงที่มีปีก 2 ปีก เช่นเดียวกับกลุ่มแมลงวัน ต่างตรงที่แมลงโปรตีน BSF เป็นแมลงที่”ไม่เป็นพาหะนําโรคและไม่เป็นศัตรูพืช” มีวงจรชีวิตจากระยะไข่สู่ระยะตัวเต็มวัย ประมาณ 13 – 18 วัน ในช่วงก่อนเข้าระยะดักแด้ มีโปรตีนสูง 42 – 54 % อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นและกรดไขมันดีหลายชนิด จึงสามารถใช้ทดแทนแหล่งโปรตีนแบบดั้งเดิม เช่น ปลาป่น (โปรตีน 41 – 42 %) และ กากถั่วเหลือง (โปรตีน 50 – 60 %) ที่สำคัญในระยะตัวหนอนดำรงชีพด้วยการกินขยะอินทรีย์จากพืชและสัตว์ จากการศึกษาพบว่า BSF สามารถลดปริมาณขยะอินทรีย์ได้ 90 % ในเวลา 14 วัน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับขยะอินทรีย์ได้ 49 % และมูลจากการเลี้ยงยังสามารถนำไปทำเป็นปุ๋ยชีวภาพหรือสารบำรุงดิน เนื่องจากมูลมีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ซึ่งล้วนแต่เป็นสารอาหารที่จำเป็นและกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช



สำหรับโครงการขยายผลฯทางเบโด้ ได้บูรณาการทำงานร่วมกับเครือข่ายนักวิจัยท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ชิดเกษตรกร ทำหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้จากงานวิจัยไปสู่การใช้จริงของเกษตรกรในวงกว้าง โดยการใช้แมลงโปรตีน BSF นิยมใช้ร่วมกับอาหารสำเร็จรูปเพื่อเสริมโปรตีนในอาหารให้กับสัตว์เศรษฐกิจ และสัตว์มูลค่าสูง ซึ่งสัตว์แต่ละชนิดเลือกใช้ BSF ที่แตกต่างกัน และจากการติดตามรายได้จากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 343 ราย พบว่า เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์โดยใช้หนอนแมลงโปรตีน BSF ร่วมเป็นอาหารสัตว์สามารถลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์และยาลงได้ถึง 50 % นอกจากนี้เกษตรกรยังได้ผลพลอยได้คือมูลแมลงโปรตีน BSF ประมาณ 11,871 กิโลกรัม/ปี สามารถใช้เป็นสารปรับปรุงดินในการปลูกผักและผลไม้ในฟาร์ม และมีราคาจำหน่ายเฉลี่ยที่ 42.14 บาท/กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 500,278 บาท/ปี สำหรับราคาขายแมลงโปรตีน BSF ในปัจจุบันจะมีราคาขายแตกต่างกัน ได้แก่ ไข่ ราคา 10 – 20 บาท / กรัม หนอนสดราคา 160 บาท / 300 กรัม หนอนอบแห้ง ราคา 300 – 600 บาท / กก. มูลหนอน ราคา 50 – 80 บาท / กิโลกรัม

ขณะที่ นายธีระพงษ์ ฤทธิมนตรี เกษตรกรผู้ใช้แมลงโปรตีน BSF กล่าวเสริมว่า ได้เปิดฟาร์มเลี้ยงไก่สวยงามมานานกว่า 30 ปี จากเดิมใช้หนอนนกผสมกับหัวอาหารร่วมกับวิตามินเสริมในการเลี้ยง แต่ระยะหลังหนอนนกมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 500 – 600 บาท ทำให้ประสบปัญหาต้นทุนอาหารสูง อีกทั้งปัญหาการป่วยตายของไก่ เนื่องจากเลี้ยงรวมกันในกรงประมาณ 5-6 ตัว ส่งผลให้ไก่เครียดรวมกับภูมิคุ้มกันต่ำทำให้ไก่ตาย ในปี 66 จึงได้เข้าร่วมอบรมการเลี้ยงแมลงโปรตีน BSF กับมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา และนำมาใช้เลี้ยงไก่สวยงาม ด้วยความต้องการที่จะลดต้นทุน ซึ่งเมื่อเลี้ยงได้ 2 เดือน เริ่มเห็นผลชัดเจนว่าช่วยลดต้นทุนอาหารได้จริง จากเดิมเฉลี่ยขั้นต่ำเดือนละประมาณ 15,000 บาท ลดเหลือประมาณ 7,000 บาท และที่สำคัญคือเมื่อเข้าเดือนที่ 3 กลับพบว่าสุขภาพไก่ดีขึ้น โตไวขึ้น ภูมิคุ้มกันสูงขึ้นไม่เจ็บป่วยง่าย ไข่ดี บางตัวที่ไม่ไข่กลับมาไข่ และจากเดิมที่ต้องถ่ายพยาธิทุก 2 เดือน ปัจจุบันไม่ต้องถ่ายพยาธิอีกต่อไป จึงมั่นใจว่า แมลงโปรตีน BSF เป็นสิ่งพิเศษที่ไก่ควรได้รับและลดต้นทุนด้านอาหารได้จริงครับ

ผอ.สวก. กล่าวทิ้งท้ายว่า แมลงโปรตีน BSF เป็นหนึ่งธุรกิจใหม่ที่ตอบสนองความยั่งยืนให้กับธุรกิจอาหารสัตว์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายระบบนิเวศ ที่สำคัญช่วยส่งเสริมให้สัตว์มีสุขภาพที่ดีขึ้น สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักส่งเสริมการใช้ประโยชน์ สวก. โทร. 0 2579 7435 ต่อ 3307

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์