ชี้ทางสว่างให้รัฐบาล หนุนศิลปินไทยทัวร์นอก ผ่านนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ จัดงบฯช่วย-เอื้อช่องทางขอวีซ่า

1302

          ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงของรัฐบาลในการจัดเทศกาลสงกรานต์ที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติจำนวนมากเข้าร่วมสาดน้ำอย่างสนุกสนาน สร้างรายได้เข้าประเทศหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนจากนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ที่นายเศรษฐา ทวีสิน ชูเป็นเรือธงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เมษายน นายเศรษฐานั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแต่ละสาขาตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ

       

ที่ประชุมพิจารณางบประมาณในการจัดโครงการ 1 ครอบครัว 1 Soft Power เพื่อผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยไปทั่วโลก โดยเริ่มต้นจากพัฒนาคนเฟ้นหาศักยภาพของไทยทุกครอบครัว อย่างน้อยครอบครัวละ 1 คน เพื่อนำมาส่งเสริมบ่มเพาะศักยภาพผ่านศูนย์บ่มเพาะทักษะสร้างสรรค์ ในทุกระดับตั้งแต่หมู่บ้านถึงระดับประเทศ ให้ทุกคนเรียนรู้เพื่อเพิ่มทักษะด้านการทำอาหาร ร้องเพลง แฟชั่น ศิลปะ มวยไทยและอื่น ๆ ทักษะดังกล่าวสามารถเรียนรู้ทั้งออนไซต์และออนไลน์ เพื่อเป้าหมายใน 4 ปีข้างหน้า สร้างแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน นั่นคือการสร้างงานถึง 20 ล้านตำแหน่ง วางเป้ามีรายได้อย่างน้อย 200,000 บาท/ปีในอนาคต ในที่ช่วงนโยบายนี้ขับเคลื่อนเพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชนและประเทศชาติ  

    “จอมมารน้อย”อยากนำเสนอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนบรรดาศิลปินในวงการต่างๆที่เดินทางไปเปิดการแสดงในต่างประเทศ ผ่านนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ หากมองย้อนในอดีตจนถึงปัจจุบันจะพบว่าบรรดาศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นคณะลิเก หมอลำ มโนราห์  นักร้องลูกทุ่ง ลูกกรุง  วงดนตรีแนวสตริง จะเดินทางไปแสดงในต่างประเทศที่มีคนไทยอาศัยอยู่แต่ละปีศิลปินเหล่านี้จะเดินทางไปตามคำเชิญของคนไทยในต่างแดน เพื่อเปิดแสดงให้คนไทยและต่างชาติได้ชม สร้างรายได้ให้ศิลปินแบบเป็นกอบเป็นกำนำกลับประเทศไทย
       

อย่างช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา“วงร็อคหิน เหล็ก ไฟ”นำโดยนายปฐมพงศ์ สมบัติพิบูลย์ หรือโป่ง หินเหล็กไฟ นำคณะเดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศแถบสแกนดิเนเวียและยุโรป ไฮไลท์ของทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้อยู่ที่ประเทศสวีเดน ภายใต้ชื่อ”คอนเสิร์ตแสงเหนือ”

โป่ง หินเหล็กไฟ บอกว่า”มีแนวคิดอยากร่วมเป็นมุมเล็กๆ ของนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ในเมื่อนโยบายบางส่วนมีการส่งเสริมร้องเพลงและศิลปะ น่าจะครอบคลุมถึงบรรดาศิลปินที่ประกอบอาชีพรวมอยู่ด้วย หากรัฐบาลยื่นมือเข้าช่วยเสมือนเป็นต่อยอดให้บรรดาศิลปินมีพลังในการสร้างสรรค์ผลงานมากขึ้น อย่างการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตในต่างประเทศ มีชาวไทยในต่างแดนและชาวต่างชาติให้ความสนใจเข้าชมจำนวนมาก สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกทางหนึ่ง ระหว่างแสดงคอนเสิร์ตสมาชิกหิน เหล็ก ไฟ ได้ถือโอกาสเชิญชวนชาวต่างชาติที่เข้าชมไปท่องเที่ยวประเทศไทย เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยรัฐบาลประชาสัมพันธ์ประเทศรวมถึงนำเม็ดเงินเข้าประเทศด้วย ซึ่งชาวต่างชาติที่เข้าชมต่างบอกว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยตามคำเชิญแน่นอน”

      จากความเห็นของโป่ง หินเหล็กไฟ ที่ไปทัวร์คอนเสิร์ตต่างแดนทำให้เห็นช่องทางที่รัฐบาลจะใช้ศิลปินจากสาขาต่างๆประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้ทั่วโลกรู้จักและสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้อีกทางหนึ่ง โดยรัฐบาลแทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย เพียงแค่ปั้นโครงการสนับสนุนศิลปินเดินทางไปแสดงหรือทัวร์คอนเสิร์ตในต่างแดนให้เป็นรูปเป็นร่าง อาจจะให้กระทรวงวัฒนธรรมรับเป็นเจ้าภาพจัดงบประมาณสนับสนุนบางส่วน รวมถึงอำนวยความสะดวกในการขอวีซ่าให้กับบรรดาศิลปินที่จะเดินทางไปแสดงให้เกิดความสะดวกมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาแต่ละประเทศกว่าจะขอวีซ่าผ่านค่อนข้างลำบาก ซึ่งการทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศของศิลปินไทยเกิดขึ้นประจำทุกเดือนทุกปีอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเดินทางไปเอง ต้องวิ่งเต้นขอวีซ่าเอง บางครั้งเกิดความผิดพลาดไปถึงประเทศปลายกลับไม่ได้แสดง แต่ส่วนใหญ่เมื่อทัวร์คอนเสิร์ตจบลง ต่างได้รับการชื่นชมจากบรรดาผู้เข้าชมทั้งชาวไทยและต่างชาติ แถมพกรายได้กลับประเทศแบบเป็นกอบเป็นกำอีกต่างหาก

         ดังนั้นเมื่อรัฐบาลมีนโยบายจะเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมและศิลปินไทย ผ่านนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ลองพิจารณาโครงการนำศิลปินไทยทัวร์คอนเสิร์ตต่างแดนอีกสักโครงการ นอกจากจะช่วงสร้างชื่อเสียงให้กับศิลปินไทยให้ทั่วโลกรู้จักแล้ว น่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศแบบคาดไม่ถึงก็เป็นได้

อย่าเพียงแค่เอื้อความสะดวกให้ศิลปิน ต่างชาติ เข้ามาจัดคอนเสิร์ต ในเมืองไทย เด็กไทยนับหมื่น ต่างต้องจ่ายค่าบัตรเพื่อเช้าชมคอนเสิร์ต เกาหลี จีน ยุโรป ฯ กรี๊ด ละ .!!! 4-8 พันบาท หอบเงิน กลับประเทศเขาครั้งนับร้อยล้าน มันใช่ นโยบายซอฟต์พาวเวอร์เหรอ บรรดาศิลปินไทย สู้ศิลปินต่างชาติไม่ได้ตรงไหน..? ตอบซิ..!!!