สวัสดีครับผู้อ่านคอลัมน์ IT Talk ทุกท่าน เชื่อว่ามีผู้อ่านจำน้อยไม่น้อยที่สนใจ นวัตกรรมยานยนต์ ใช่หรือไม่ครับ วันนี้ IT Talk ขอเอาใจผู้ชื่นชอบรถยนต์ที่ทันสมัยโดยเฉพาะ ตาม IT Talk ไปรู้จักกับ TESLA CYBERTRUCK รถกระบะไฟฟ้าสุดเท่จาก TESLA กันได้เลยครับ
Tesla Cybertruck ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา ในฐานะรถกระบะพิกัด Full-size Truck ขุมพลังไฟฟ้า โดยหลังจากที่ได้ปล่อยวีดีโอทดสอบทำความเร็วทางตรง หรือ Darg Race ที่สามารถเอาชนะ Porsche 911 ได้ ทั้งที่ Cybertruck มีการพ่วง Porsche 911 มาด้วยอีกคัน ทำให้ Tesla Cybertruck กลายเป็นที่พูดถึงทันทีเนื่องจากสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมนี้
ตัวเลขมิติตัวถังภายนอกของ Tesla Cybertruck มีความยาว 5,682.9 มิลลิเมตร กว้าง 2,031.8 มิลลิเมตร (ไม่รวมกระจกมองข้าง) สูง 1,740.8 – 1945.8 มิลลิเมตร (ขึ้นอยู่กับการปรับระดับความสูงช่วงล่างถุงลม) และมีความยาวฐานล้ออยู่ที่ 3,635 มิลลิเมตร เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ลองทำตัวเลขไปเทียบกับกระบะอย่าง Ford Ranger Wildtrak จะพบว่า Tesla Cybertruck นั้น ยาวกว่า 312.9 มิลลิเมตร กว้างกว่า 113.8 มิลลิเมตร บนตัวถังถูกปกคลุมตัวเปลือกตัวถังที่ทำจากวัสดุสแตนเลสแข็งแรงพิเศษ (Ultra-hard 30X Cold-rolled stainless Steel) หนา 1.4 – 1.8 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถกันกระสุน 9 มม. ทนแรงกระแทกจากวัตถุทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นรถเข็นตามห้างสรรพสินค้า การทุบด้วยค้อน ตลอดจนสามารถซ่อมแซมได้ง่ายดายเพียงแค่เปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ ราคาอะไหล่ เช่น แก้มหน้าด้านข้าง (Fender) อยู่ที่ 550 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 20,200 บาท อย่างไรก็ตาม แสตนเลสแข็งแรงพิเศษนี้ ไม่สามารถปั๊มขึ้นรูปได้ด้วยเครื่องจักรทั่วไป และเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ดีไซน์ภายนอกของ Cybertruck ดูเหลี่ยมอย่างที่เราเห็นกัน
ล้อทั้ง 4 ของ Cybertruck เป็นล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว พร้อมฝาปิด Aerowheel Cover สวมด้วยยาง All-terrain ขนาด 285/65R20 เส้นผ่านศูนย์กลางรวม 33.5 นิ้ว เชื่อมเข้ากับตัวรถด้วยระบบกันสะเทือนแบบอิสระ ทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบรองรับแบบถุงลม AIR Suspension ปรับความนุ่มนวลตามโหมดการขับขี่ และสามารถปรับความสูงได้หลายระดับ ระยะต่ำสุดจากพื้นถึงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) ต่ำสุดอยู่ที่ 201.3 มิลลิเมตร และสูงสุดอยู่ที่ 406.3 มิลลิเมตร ด้านระบบบังคับเลี้ยว เป็นพวงมาลัยแบบ Steering-by-Wire ใช้ระบบไฟฟ้าสามารถบังคับเลี้ยวได้ทั้ง 4 ล้อ ช่วยให้รถกระบะคันโตสามารถเลี้ยวตีโค้งได้ในระยะรัศมี 6.25 เมตร
TESLA CYBERTRUCK มีให้เลือก 3 รูปแบบ ดังนี้
Rear-Wheel Drive ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 315 แรงม้า (HP) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC)อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ภายใน 6.5 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ทำได้ 402 กิโลเมตร (มาตรฐาน EPA) น้ำหนักลากจูงสูงสุด 7,500 ปอนด์ หรือประมาณ 3.4 ตัน
All-Wheel Drive
ขับเคลื่อนล้อ 4 ล้อ AWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุด 600 แรงม้า (HP) แรงบิดสุงสุด 10,080 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ความจุ 123 KWh อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ภายใน 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุด Top Speed ทำได้ 180 km/h ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ทำได้ 547 กิโลเมตร (มาตรฐาน EPA) น้ำหนักลากจูงสูงสุด 11,000 ปอนด์ หรือประมาณ 5 ตัน
Cyberbeast
ขับเคลื่อนล้อ 4 ล้อ AWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุด 845 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 13,959 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ความจุ 123 KWh อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ภายใน 2.6 วินาที ความเร็วสูงสุด Top Speed ทำได้ 208 km/h ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ทำได้ 515 กิโลเมตร (มาตรฐาน EPA)
น้ำหนักลากจูงสูงสุด 11,000 ปอนด์ หรือประมาณ 5 ตัน
สำหรับผู้ชมที่สนใจที่จะชม TESLA CYBERTRUCK ด้วยตัวเอง สามารถมาแวะชมได้ที่ TESLA CYBERTRUCK รามคำแหง โดยติดตามรายละเอียดและลงทะเบียนการเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ @Tesla_Thailand ก่อนเข้าชม ซึ่งมีภารกิจต่างๆและรับของที่ระลึกสำหรับกลุ่มผู้ชม CyberTruck นี้เท่านั้น เบื้องต้นรถ TESLA CYBERTRUCK เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 6-30 เมษายน 2567 เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับข้อมูลของเจ้า TESLA CYBERTRUCK ที่ทาง IT Talk ได้รวบรวมมาและเช่นเคย หากมีข้อมูลดีๆ สาระดีๆแบบนี้ ทางคอลัมน์ IT Talk ก็จะนำมาฝากกันอีกแน่นอนครับ