วันที่ 8 มี.ค. จากกรณีที่สื่อมวลชนทั้งไทยและเมียนมาหลายสำนักรายงานข่าวระบุว่ารัฐบาลทหารเมียนมาได้ประสานงานกับทางการไทยเพื่อขอนำเครื่องบินขนเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลออกจากเมืองเมียวดีที่ถูกกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลยึดครองไปแล้วมาลงที่สนามบินแม่สอดจังหวัดตาก โดยมีบางสำนักรายงานว่ามีการขนเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมอาวุธ และทรัพย์สินจำนวนมากติดมาด้วย ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยยืนยันว่า กรณีดังกล่าวรัฐบาลเมียนมาขอลงจอดที่สนามบินแม่สอดอย่างถูกต้อง และไม่มีการขนทหารหรืออาวุธ และระบุว่ายังไม่มีผู้ลี้ภัยทะลักเข้ามา
ต่อมาเวลา 14.30 น. นายธนวัต ศิริกุล รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงย้ำอีกครั้งว่า เมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้รับการร้องขอจากสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทยเพื่อนำเที่ยวบินพิเศษมาลงที่ไทย เส้นทางย่างกุ้ง-แม่สอด ระหว่างวันที่ 7, 8 และ 9 เม.ย. รวม 3 เที่ยวบิน เพื่อขนผู้โดยสารและสิ่งของ ซึ่งกรณีดังกล่าวได้พิจารณาโดยรัฐบาล ซึ่ง สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาโดยด่วน ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม เพราะพิจารณาแล้วมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการอพยพบุคลากรเมียนมาพร้อมครบอครัวไปยังพื้นที่ปลอดภัย ที่ผ่านมาไทยได้มอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ทุกฝ่ายในเมียนมาโดยไม่เลือกปฎิบัติ
เมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมาได้มีเที่ยวบินพิเศษจากเมียนมามาลงท่าอากาศยานแม่สอดตามคำขอ และได้บินกลับภายในวันเดียวกัน จากนั้นได้รับการแจ้งจากทางเมียนมาว่าขอยกเลิกเที่ยวบินของวันที่ 8 และ 9 แล้ว ทั้งนี้รัฐบาลได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ โดยเฉพาะในเมียวดีอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดำเนินการตามความจำเป็นเพื่อรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของประชาชนในพื้นที่ และเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป
ซึ่งการแถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีการแพร่กระจายของจดหมายจากสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทยที่ส่งถึงกระทรวงการต่างประเทศของไทย ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ และตั้งคำถามว่าหากไม่มีการนำเสนอข่าวดังกล่าว เที่ยวบินพิเศษอีก 2 เที่ยวน่าจะบินลงแม่สอดตามร้องขอ แต่เมื่อปรากฏเป็นข่าวแล้ว ทางการไทยจึงต้องตัดสินใจแจ้งยกเลิกใช่หรือไม่
ขอบคุณภาพเครื่องบินเมียนมาจากเพจ Khit Thit Media