วันที่ 5 เมษายน 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วย ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา ภริยา ร่วมชมภาพยนตร์เรื่อง หลานม่า ซึ่งกระทรวง พม. ได้มอบโล่รางวัล ในฐานะภาพยนตร์ที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุและครอบครัว ในงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2567 โดยได้กล่าวชื่นชมต่อคุณจินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด และคุณพัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผู้กำกับภาพยนตร์ หลานม่า ณ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์
นายวราวุธ กล่าวภายหลังรับชมภาพยนตร์ หลานม่า ว่า เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้เข้าใจง่าย ทำให้คิดถึงหลายครอบครัว ที่บางครั้งเราอาจหลงลืมไปบ้างว่าเรายังมีอาม่าให้คิดถึง เมื่อสังคมเปลี่ยนไปผู้คนจะมีการงานทำมากขึ้น จึงมีเวลาให้กับผู้มีพระคุณน้อยลง สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกครอบครัวโดยเฉพาะสังคมในปัจจุบัน สิ่งที่สำคัญคือจะทำอย่างไรที่เราทุกคนจะต้องหาเวลา ติดต่อกับผู้ที่เราเคารพ บุพการีของเรา อย่างตนเองทุกเช้าจะตั้งนาฬิกา 8 โมงเช้าแล้วโทรศัพท์หาคุณแม่แจ่มใส (ศิลปอาชา) เพราะคิดว่าไม่ได้เจอหน้าแต่ได้ยินเสียงกันก็ยังดี เพราะผู้ใหญ่มักจะไม่พูดหรอกว่าคิดถึง โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน ที่จะไม่พูดคำว่าคิดถึง หรือมาแสดงความอ่อนแอให้ลูกหลานได้เห็นโดยเด็ดขาด จะไม่มาอ้อนลูกหลาน ฉะนั้นหากลูกหลานยื่นมือไปและแสดงให้เห็นว่าเรามีความห่วงใย รัก เคารพ ห่วงหาอาทรกันอยู่ นั่นคือความอุ่นใจ ที่ลูกหลานให้กับท่านได้ เพราะผู้หลักผู้ใหญ่เมื่อมาถึงวันนี้ไม่ต้องการอะไรมากต้องการเพียงสิ่งที่มีความสุขและอบอุ่นใจเท่านั้น
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนดูภาพยนตร์วันนี้ไม่ได้ร้องไห้ แต่ภรรยาต่อมน้ำตาแตก โดยเฉพาะตอนที่หลานไปจับมืออาม่าที่บ้านพักคนชราแล้วบอกว่า กลับบ้านนะ แสดงให้เห็นว่าความห่วงหาอาทรของหลานที่บอกว่ากลับไปอยู่บ้านเราดีกว่า บ้านพักคนชราไม่ใช่เป็นสิ่งไม่ดี แต่ถ้าหากยังมีลูกหลานที่สามารถดูแลกันได้ในบั้นปลายชีวิต ให้เวลากับท่านดีกว่าที่จะไปให้เวลากับท่านตอนที่เสีย อยู่ฮวงซุ้ยแล้ว มันไม่เกิดประโยชน์ หนังเรื่องนี้สอนพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสถานะใด ยากดีมีจนอย่างไร ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นกับทุกบ้าน และเป็นเครื่องเตือนสติได้ว่า ในท้ายที่สุดแล้วสถาบันครอบครัว และ ผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นสิ่งที่ดึงดูด ให้ทุกคนกลับมารวมกัน คนสูงวัยคือหัวใจของครอบครัวและสถาบันครอบครัว ซึ่งวันนี้สถาบันครอบครัวของประเทศไทยเปราะบางเหลือเกิน เรากลับมาหาผู้สูงอายุกัน ให้ความสำคัญกับท่านและสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมของประเทศไทย ให้มีความอบอุ่นและเดินไปข้างหน้า สร้างความหวังให้กับคนรุ่นต่อๆไป