‘แพทองธาร’ นำทีม ‘เพื่อไทย’ พบ ‘ทูตสหภาพยุโรป และ 19 ประเทศสมาชิก เพื่อสานสัมพันธ์พร้อมแจงผลงานรัฐบาล ในรอบ 6 เดือน หารือฟรีวีซ่ากลุ่มประเทศเชงเก้น
วันที่ 28 มีนาคม 2567 นางสาวแพทองธาร “อุ๊งอิ๊ง” ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายแพทยสุรพงษ์ สืบวงศ์ลีกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตรซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรมว.คลัง นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นายพลนชชา จักรเพ็ชร กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และนางสาวชยิกา วงศน์ภาจันทร์ ที่ปรึกษารมว.ต่างประเทศ เข้าพูดคุยกับทูตจากสหภาพยุโรป และประเทศสมาชิก 18 ประเทศที่มีสถานทูตประจำไทย ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่พรรคเพื่อไทยได้สานความสัมพันธ์ระหว่างไทย-อียู และร่วมกันหารือในประเด็นที่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศในการสร้างความกินดีอยู่ดีให้พี่น้องประชาชน
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ต้องสร้างความเชื่อมั่น ให้ประชาชน เปลี่ยนความฝันของผู้คนให้เป็นความจริง โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา 3 ด้าน คือ ในฐานะรัฐบาลที่สามารถพัฒนาความมั่นคง สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ยกระดับเศรษฐกิจทั้งระบบ ในฐานะผู้แทนราษฎรที่สะท้อนความปราถนาของประชาชนผ่านการบัญญัติกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ และร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงใหสำเร็จ ในฐานะพรรคการเมืองที่สามารถทำนโยบายที่เคยให้ไว้กับประชาชนไดสำเร็จ
ทั้งนี้ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยยังได้โอกาสสื่อสารนโยบายของพรรค เช่น ซอฟตพ์าวเวอร์, 30 บาทรักษาทุกโรค, กระเป๋าเงินดิจิทัล, การท่องเที่ยว 6 ประเทศอาเซียน 1 ปลายทาง ที่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมภายในกรอบระยะเวลา 6 เดือน ตลอดจนการพูดคุยถึงการดำเนินนโยบายในอนาคตอย่าง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เชงเก้นวีซ่า ที่ทางสหภาพยุโรป จะเปิดรับการพิจารณา Visa Free ให้กับประเทศต่างๆ อีกครั้งตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังมีการรวมพูดคุยถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสหภาพยุโยปที่ให้ความร่วมมือกันมาโดยตลอดทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง โดยในสัปดาห์หน้า (2 เมษายน) คณะรัฐมนตรีจะมีการพิจารณาอนุมัติการลงนามในความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านระหว่างสหภาพยุโรปและประเทศไทย (PCA) ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญ สำหรับความสัมพันธ์ไทยและอียู รวมไปถึงการพูดคุยความความคืบหน้าของการทำความตกลงทางการค้าเสรีระหว่างไทยและสหภาพยุโรปที่คาดว่าจะบรรลุข้อตกลงภายในสิ้นปี 2568
ทั้งนี้สหภาพยุโรป ยังได้เน้นย้ำว่า สำหรับเมียนมา สหภาพยุโรปพร้อมจะสนับสนุนบทบาทของไทยและอาเซียนต่อไป