สัปดาห์ที่ผ่านมาทำชาวบ้านว้าวุ่น ถึงบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษเด็ดขาด อยู่ระหว่างพักโทษกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าใครคือนายกรัฐมนตรี ตัวจริงเสียงจริง
เพราะระหว่างที่นายทักษิณ กลับบ้านเกิด จ.เชียงใหม่ เกิดภาพเดินสายเสมือนตรวจราชการในความรับผิดชอบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง รวมถึงปลัดกระทรวงฯพร้อมเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับพร้อมอธิบายถึงแผนงานในการแก้ปัญหาฝุ่นและภัยแล้ง จนถูกบรรดา สว.สายสลิ่มและพวกสลิ่ม ตั้งคำถามว่านายทักษิณ เป็นแค่นักโทษ สามารถตรวจราชการได้หรือ ?
หากมองภาพที่ปรากฏผ่านสื่อทุกแขนงจะเห็นว่า บรรดาบิ๊กข้าราชการกระทรวงเกษตรฯยืนอธิบายข้อราชการด้วยอาการพินอบพิเทา โดยมีเสนาบดียืนข้างๆนายทักษิณ ด้วยอาการที่ไม่แตกต่างกัน น่าจะเป็นคำตอบให้พวกสลิ่มได้เป็นอย่างดี ซึ่งอาการอัดอั้นของพวกสลิ่มที่ชังนายทักษิณ ณ เวลานี้ คงไม่แตกต่างของพวกเสื้อแดงที่ชื่นชมนายทักษิณช่วงที่นายทักษิณถูกเผด็จการทหารและองค์กรอิสระกระทำจนต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ
ห้วงเวลาที่เผด็จทหารครองเมืองขาเชียร์นายทักษิณจะเกิดอาการนายทักษิณทำอะไรก็ผิด ณ เวลานี้พวกสลิ่มจะเกิดอาการนายทักษิณทำอะไรก็ถูก บางคนรู้สึกเครียดอีกต่างหาก เพื่อคลายเครียดคงบอกได้เพียงว่าต้องทำใจ เพราะหมากการเมืองได้เปิดกระดานใหม่เล่นตั้งแต่ที่นายทักษิณบินกลับประเทศไทยแล้ว
ครั้นมองบทบาทของนายเศรษฐา ระหว่างตรวจราชการที่เชียงใหม่ แทบไร้เงาเสนาบดีรวมถึงบิ๊กข้าราชการจากส่วนกลางคอยต้อนรับ มีเพียงข้าราชการในพื้นที่คอยติดตามบรรยายสรุป บรรยากาศแสนธรรมดาดูไม่จริงจังและพินอบพิเทาแบบเจอนายทักษิณแต่อย่างใด
ตกค่ำนายเศรษฐา เดินทางไปร่วมรับประทานอาหารกับนายทักษิณ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น้องเขยนายทักษิณ พร้อมด้วยสส.เพื่อไทยและแกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ร.อ.ธรรมนัส ดังนั้นถ้าชาวบ้านหรือบรรดาคอการเมืองจะมองว่านายทักษิณ มีบารมีเหนือนายเศรษฐา นายกรัฐมนตรีตามกฎหมาย คงไม่แปลกแต่อย่างใด
ที่ยกประเด็นลักษณะนี้นำเสนอ ไม่ต้องการดิสเครดิตนายเศรษฐาแต่อย่างใด แต่มุ่งหวังอยากให้นายทักษิณ ในฐานะผู้มีอิทธิพลตัวจริงเสียงจริง เจ้าของพรรคเพื่อไทย ช่วยติวเข้มด้านการบริหารประเทศให้นายเศรษฐา เท่านั้น เพราะตลอดเวลา 6 เดือนที่นายเศรษฐา นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผลงานที่ทำให้ชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเราได้รับรู้และสัมผัสได้มีน้อยมาก ถ้าจะโดดเด่นจะมีเพียงแค่เดินสายขายไอเดียให้กับต่างประเทศเท่านั้น
ที่กล้าฟันธงแบบนี้เพราะชาวบ้านตั้งแต่ระดับกลางถึงรากหญ้า อยู่กันอย่างยากลำบาก รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง ค่าครองชีพพุ่งราวกับพลุที่ยิงขึ้นฟ้า หลายคนต้องยอมให้ บ้าน คอนโดมิเนียม รวมถึงรถยนต์และจักรยานยนต์ ถูกสถาบันการเงินยึดเพราะผ่อนชำระไม่ไหว
ขณะเดียวกันถูกอาชญากรรมสารพัดรูปแบบคุกคาม ยาเสพติดทะลักเข้าประเทศมีการจับกุมครั้งละหลายๆล้านเม็ด อดสงสัยไม่ได้ว่าทหาร ตำรวจ ที่เฝ้าชายแดนปล่อยให้ทะลักถึงกลางกรุงได้อย่างไร
ทำไมนายเศรษฐา ปล่อยให้องค์กรตำรวจ เครื่องมือสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม อยู่ในภาวะผู้นำฟัดกันนัวแย่งผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทา โดยไม่ได้ยื่นมือเข้าจัดการแต่อย่างใด
ขณะที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ภัยร้ายที่คุกคามชาวบ้านทุกระดับชั้น ยังอาละวาดหนักกว่าเดิมและลงลึกถึงชาวบ้านรากหญ้า อย่างกรณี นายบุญช่วย วัย 71 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกล้วงข้อมูลส่วนตัวจนเครียดเพราะกลัวถูกดูดเบี้ยผู้สูงอายุ 800 บาท ต้องผูกคอตาย
ในความเป็นจริงแล้ว เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ควรเกิดเพราะ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นั่งเสนาบดี แต่ตลอดระยะเวลา 6 เดือนแทบจะหาผลงานเชิงรุกที่จะจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้เลย
ดังนั้นนายทักษิณ ในฐานะพี่ใหญ่ของรัฐบาล มากด้วยไอเดียเชิงบริหาร แถมนักการเมืองและข้าราชการส่วนใหญ่ยำเกรง ช่วยติวงานบริหารแบบเข้มข้นให้นายเศรษฐาและรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงด้วย และช่วยกระตุกขาให้นายเศรษฐาเพลาๆโกอินเตอร์ เพราะงานภายในกำลังย่ำแย่ ทีเถอะ
ข้อเรียกร้องนี้ไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด เพราะคนทั้งประเทศล้วนมองออกว่านายทักษิณ ชินวัตร คือผู้มากบารมีตัวจริง จึงอยากให้เร่งลงมือทำโดยเร็วเพราะถ้าลากยาวแล้วไร้ผลงาน เมื่อถึงเวลานั้นหมากกระดานนี้ที่เปิดเล่นตั้งแต่นายทักษิณเข้าประเทศอาจจะกวาดตกเวทีก็เป็นได้ !!!