หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ชี้ กกต.ยื่นศาลรธน. ยุบก้าวไกล เป็นไปตามกฎหมาย กำชับลูกพรรคนั่งเฝ้าสภาฟังฝ่ายค้านอภิปราย ม.152 มอง เป็นโอกาสดีที่รัฐบาลได้ชี้แจงงาน
เมื่อวันที่ 14 มี.ค.67 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นประธานสภาเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 กล่าวหารัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บริหารงานมา 6 เดือน แต่ไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับประชาชน ไม่จริงใจ เพิกเฉย ต่อคำแถลงนโยบายที่เคยให้ต่อสภา ว่าการที่ทั้งฝ่ายค้านและวุฒิสภายื่นขอเปิดอภิปรายรัฐบาล ถือเป็นโอกาสที่ดีที่รัฐบาลจะได้ตอบข้อซักถามข้อสงสัยของสมาชิกรัฐสภา
ในส่วนของพม. ยินดีที่จะรับฟังข้อสังเกตและข้อติชมต่างๆเหล่านั้น เพื่อนำไปพัฒนาและแก้ไขการทำงาน แต่เชื่อว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ในส่วนของกระทรวง พม. และอีกหลายหน่วยงานของรัฐเร่งทำงานกันเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับประเทศและประชาชน อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา เราไม่แน่ใจว่า ฝ่ายค้านจะมีอะไรตั้งข้อสังเกตบ้าง ตนเองในฐานะหัวหน้าพรรค จะขอให้สมาชิกพรรคทุกคนอยู่ในที่ประชุมสภาในระหว่างที่มีการอภิปราย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล ในคดีเสนอแก้ไขมาตรา 112 ใช้เป็นนโยบายหาเสียงการเลือกตั้งเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่ กกต.ดำเนินการตามกรอบกฏหมายที่กำหนดหลังจากมีคำตัดสิน เพราะหากไม่ดำเนินการก็เกรงว่าจะมีการฟ้องร้องเกี่ยวกับการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ได้
เมื่อถามถึงกระแสที่ สส.ก้าวไกล เริ่มไปคุยกับพรรครัฐบาลเพื่อหาทางออกให้ตัวเองกรณีอาจถูกโทษหนักตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี นายวราวุธ กล่าวว่า หากพูดถึงในทางปฏิบัติถ้าพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งถูกยุบ เหมือนที่เมื่อปี 2551 พรรคชาติไทยในขณะนั้นก็โดนยุบไปเช่นกัน สส. ก็มีเวลา 30 วันในการย้ายพรรค เพื่อหาสังกัดพรรคอื่น หากสมาชิกคนใดมีความกังวลว่าพรรคจะโดนยุบ อาจจะเป็นเรื่องปกติที่มีการพูดคุยกับเพื่อนๆ ต่างพรรคว่าจะย้ายไปอยู่พรรคใดอย่างไร ถือเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกพรรคแต่ละคน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ยื่นให้ตรวจสอบการใช้งบฯ 138 ล้านบาท ปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลและปูหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เนื่องจากเห็นว่าเป็นการใช้งบฯ67 ล่วงหน้า จึงส่อว่าผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 141 และ 144 วรรค 3 ซึ่งอาจมีโทษกระทบถึงคณะรัฐมนตรี นายวราวุธ กล่าวว่า ในกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าว ตนในส่วนของกระทรวง พม. คงตอบแทนไม่ได้ แต่คงต้องขอความชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นภายในทำเนียบรัฐบาลนั้น จะมีหน่วยงานต่างๆที่ดูแล ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี คงต้องมีการดำเนินการในกรอบงบประมาณซึ่งรายละเอียดตรงนี้ขอให้สอบถามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะออกมาชี้แจง