ผู้ว่าฯ เชียงรายเดินหน้าปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง สั่งฝ่ายปกครองบุกจับกุมร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย จับกุมร้านลักลอบจำหน่าย 3 ร้าน ผู้กระทำผิด 4 ราย พร้อมของกลางมูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท
วันที่ 5 มี.ค. 67 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครอง บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็ก เยาวชน รวมถึงประชาชนทั่วไป โดยมีการบริการขายทั้งหน้าร้านและออนไลน์โดยมีการส่งของผ่านไรเดอร์ ในบริเวณอำเภอเมือง จึงสั่งการให้นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย และนายธีรัตน์ อิทธิพลาลักษณ์ ปลัดอำเภอเมืองเชียงราย บูรณาการกำลังร่วมกับสมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงราย ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง จนสืบทราบว่ามีร้านในบริเวณโซนนิ่งสถานบริการ ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจริง จำนวน 3 ร้าน จึงวางแผนเข้าจับกุมทั้ง 3 ร้านพร้อมกัน
“จากการตรวจสอบภายในร้านทั้ง 3 ร้าน พบบุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์ น้ำยา และอุปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งสินค้าที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดได้ทั้ง 3 ร้าน จำแนกเป็น 1) เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า 635 เครื่อง 2) หัวพอตบุหรี่ไฟฟ้า 2,811 ชิ้น 3) บุหรี่ไฟฟ้าใช้แล้วทิ้ง 1,810 ชิ้น 4) น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 208 ชิ้น 5) คอยล์บุหรี่ไฟฟ้า 353 ชิ้น และ 6) หัวคอยล์บุหรี่ไฟฟ้า 25 ชิ้น รวมมูลค่าของกลางทั้งหมดประมาณ 1,802,650 บาท นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายรับหรือเงินหมุนเวียนภายในร้าน พบแต่ละร้านมีรายได้ต่อวันตั้งแต่วันละ 10,000 – 40,000 บาทต่อวัน หรือเดือนละประมาณ 300,000 – 500,000 บาท” ผวจ.เชียงรายกล่าว
นายพุฒิพงศ์ฯ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้ดูแลทราบว่าเจ้าของที่แท้จริงจะติดต่อผ่านไลน์ และส่งของมาให้ขายจึงไม่ทราบราคาต้นทุนต่อชิ้น และจะขายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ตั้งแต่ราคาหลักสิบ ถึงหลักพันบาท โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ดูแลทั้ง 3 ร้าน รวม 4 ราย ข้อหาซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย สินค้าต้องห้ามนำเข้า (บุหรี่ไฟฟ้า-น้ำยา) มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่า หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และ 2) ขายบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยา โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะเร่งปราบปรามร้านทั้งที่เปิดหน้าร้านและขายออนไลน์ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายต่อไป