รวบ”ชัยวัฒน์”อดีตที่ปรึกษาแม่แตงโม หลอกเรียกเงิน20ล.ฝากเป็นสส.

8515

“รถสายตรวจตำรวจทางหลวง” รวบ “ชัยวัฒน์” อดีตที่ปรึกษาแม่แตงโม หนีหมายจับคดีฉ้อโกง อ้างชื่ออุ๊งอิ๊ง ฝากเข้าบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ สูญ 20 ล้าน

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ไพรัตน์ คำลี รอง ผกก.(สอบสวน) หน.งานสอบสวน สน.ลุมพินี พ.ต.ต.สุทวัฒน์ ศรีพรวรรณ์ สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี พร้อมคณะ รับตัวผู้ต้องหาตามหมายจับจากตำรวจทางหลวงจับกุมนายชัยวัฒน์ กับ พวกรวม 3 คน อดีตที่ปรึกษากฎหมายนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ภัทรธิดาโดยมีหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงปทุมวัน ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

ก่อนเกิดที่เกิดเหตุผู้ต้องหากับพวก รวม 3 คน ได้หลอกลวงนายอำไพ อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทยว่า มีตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 20 ของพรรคเพื่อไทย ว่างอยู่ แต่ต้องเสียค่าสมัครเป็นเงิน 40 ล้านบาท ทำให้นายอำไพ สนใจ จึงได้หลงเชื่อและไปลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อของพรรคเสรีรวมไทย เพื่อมาสมัครเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง


เบื้องต้น นายอำไพ ได้ให้เงินในเบื้องต้นครึ่งหนึ่ง 20 ล้านบาท แก่กลุ่มผู้ต้องหา หลังไปถ่ายรูปและสมัครเป็น สส.บัญชีรายชื่อที่พรรคเพื่อไทยและกลุ่มผู้ต้องหา ได้เรียกร้องเงินที่เหลือ คือ 20 ล้านบาท แต่คราวนี้นายอำไพ ขอมอบเงินต่อหน้าอุ๊งอิ๊งค์ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เมื่อไม่ได้พบ น.ส.แพทองธาร จึงไม่มีการจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก 20 ล้านบาท แต่พอพรรคเพื่อไทยประกาศรายชื่อ สส.บัญชีรายชื่อ ปรากฏว่าไม่มีชื่อของผู้กล่าวหาที่ 1 แต่อย่างใด จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงมาแจ้งความดำเนินคดีจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

กระทั่งวันที่ 29 ก.พ.67 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 1 กก.1 บก.ทางหลวง กับพวกได้ร่วมกันจับกุมตัวนายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงปทุมวัน ที่บริเวณ กม.2-3 ถ.สายเอเชีย ทล.32 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาฯ นำส่งพนกงานสอบสวนดำเนินคดี เบื้องต้นในชั้นสอบสวนให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยขอให้การในชั้นศาล วันที่ 1 มี.ค.67 พาตัวนายชัยวัฒน์ ไปขอฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ซึ่งผู้ต้องหารายดัวกล่าวได้กระทำผิดฐาน “ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม,หมิ่นประมาท” ตามหมายจับศาลแขวงปทุมวัน ที่ 117/2566 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 สถานที่จับกุม บริเวณ กม.2-3 ถ.เอเชีย ทล.32 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

ตำรวจทางหลวง อยุธยา ได้พบรถต้องสงสัย ขับมาเส้นทางดังกล่าว จึงได้เรียกให้หยุด พบผู้ต้องหาตามหมายจับฯใช้รถยนต์เก๋งสองตอน BMW 525i สีดำ ทะเบียน ฎอ-7227 กรุงเทพมหานคร และได้รับการแจ้งเตือนของกล้องตรวจจับการกระทำความผิดจาก “ศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบและเฝ้าระวังรถต้องสงสัย” Suspect Vehicle Command Center (SVCC) เป็นรถ ต้องสงสัยสวมทะเบียน จึงได้เฝ้าระวังสืบสวนติดตาม ต่อมาตามวันเวลา สถานที่จับกุม พบรถ ต้องสงสัย ตรวจสอบ หมายเลขตัวถังกับระบบข้อมูลทะเบียนรถ พบมีข้อมูลเป็น ฌถ-5624 กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบแผ่นป้าย ฎอ-7227 กรุงเทพมหานคร เบื้องต้น เป็นแผ่นป้าย ทะเบียนจริง ได้ทำการตรวจยึด

จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเป็นผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลแขวงปทุมวัน ที่ 117/2566 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งกระทำผิดฐาน “ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม,หมิ่นประมาท” สอบถามรับว่าตนเองเป็นบุคคลเดียวกันกับหมายจับฉบับนี้จริงและยังไม่เคยถูกจับกุมตัวในคดีนี้มาก่อน จึงได้ดำเนินการจับกุม นำส่ง พงส.สน.ลุมพินี

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ชัยวัฒน์