ปัญหาเดิมๆการก่อเหตุรายวัน,คลั่งยา,โรคจิต  หัวร้อนไม่ใช่ปัญหาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยเดียว

872

รัฐบาลต้องไปทบทวนวางแผนป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเพิ่มมากขึ้น หรือค่อยๆลดลง จนหมดไป เนี่ยแหละที่ประชาชนต้องการ “การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือการป้องกันปัญหา”

ทุกๆวันตื่นมาเสพข่าวเพื่อจะได้อัพเดตสมองว่าโลกเกิดอะไรขึ้นบ้าง สิ่งที่พบเห็นในข่าวทุกแพตฟอร์ม นั่นคือ คนหัวร้อนก่อเหตุอาชญากรรม ในรูปแบบต่างๆกัน 

แต่ที่มีให้เห็นในข่าวมากสุด คือชาย หญิง  คลั่งยา มีอาการทางจิต ก่อเหตุรุนแรงถึงกับเสียชีวิตและเสียทรัพย์สิน มีข่าวในลักษณะนี้ ทุกวัน บางวันมีถึง 3-4 แห่ง และกำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นต่อไปในอนาคต  แต่จะเห็นว่า ผู้เข้าระงับเหตุ มีแต่ตำรวจ กับเจ้าหน้าจากหน่วยงานมูลนิธิภาคเอกชนฯ ทำงานอย่างเดียวดาย 2 หน่วยงานเท่านั้น ทั้งที่ มีหน่วยงานที่รับผิดชอบมายมาย อย่างคนป่วยทางจิต เจ้ากระทรวงคือสาธารณะสุข กระทรวง พม. กรมปกครอง  มหาดไทย รวมไปถึง กระทรวงศึกษา ซึ่งไม่เคยออกมาแก้ปัญหาจริงจัง ลอยตัว ทำพีอาร์สร้างภาพไปวัน แต่ไม่ได้บูรณาการเชิงป้องกัน อารยประเทศทั่วโลกเหตุอะไรที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เขาใช้การป้องกัน เพื่อแก้ปัญหา ต่างจากประเทศเรา รัฐบาลมักจะเลือกจะแก้ปัญหา มากกว่าการป้องกัน ทุกกระทรวง ทบวง กรม ทั้งที่รู้ว่าเหตุต่างๆมันป้องกันได้ แต่ขาดความจริงใจทำงานแล้วมานั่งทำงานให้สื่อนำเสนอข่าวอวยๆกัน ทั้งที่มันคือหน้าปกติของข้าราชการที่ดี ต้องทำ(ขอย้ำ ว่ามันต้องทำ เพราะมันคือหน้าที่)

มันเป็นดัชนีชี้วัดว่า หน่วยงานภาครัฐล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง บุคลากรในองค์กรนั้นขาดระบบคุณธรรม งบประมาณแต่ละกระทรวงมีมากมาย แต่ถูกนำมาใช้ไปในทางที่เป็นงานสร้างภาพ ว่าหน่วยงานตัวเองมีผลงานเยอะแยะมากมาย หวังผลในผลคะแนนจากการเลือกตั้งเพื่อหวังเข้ามากอบโกย เรามาคิดกันเล่นๆเงินข้าราชการ ทั้งสายการเมือง สายข้าราชการประจำ เอามาบวกลบคุณหารดู จะพบว่าการดำรงชีพ จะอยู่แบบพอเพียงเท่านั้น ไม่มีทางที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ เช่นมีบ้านหลังละสิบล้าน ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ ใช้รถหรู แข่งกันอวดคุณภาพชีวิตให้เห็นว่าฉันหาเงินเก่ง ทั้งที่มาจากการทุจริตทาง ตรง และทางอ้อมทั้งนั้น  เพียงแต่จะมีข้าราชการดีๆที่มีคุณธรรมอยู่ส่วนหนึ่งที่ช่วยประคองให้งานเดินไปได้จนครบวาระประจำปี ข้าราชการกลุ่มนี้ต้องขอชื่นชม ดำรงชีพด้วยอาชีพเสริม สมาชิกในครอบครัวต่างช่วยกันสร้างอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้มาใช้จ่ายในครอบครัว

ขอเรียกร้องรัฐบาลยุคนี้เร่งแก้ปัญหา พร้อมกับป้องกันปัญหาเดิมๆที่เกิดขึ้นทุกวันให้ได้ หากแก้ไขได้ประชาชน จะเทใจให้พวกท่านกลับมาบริหารประเทศต่อไปอีกอย่างต่อเนื่อง ได้โปรดก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น สร้างระบบบคุณธรรมให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชน “อย่าให้เสียเวลา 8 ปีฟรีๆแบบยุค คสช. ที่แทบจะไม่เห็นคุณภาพชีวิตของประชาชนส่วนใหนที่ดีขึ้นเลย”ประชาชนไม่ได้โง่ เพราะประชาชนเขาต่างผ่านมาหลายยุคเห็นการโกงกิน มาทุกๆรัฐบาล มากมั่ง น้อยมั่ง ประชาชนเขาปล่อยวางเรื่องนี้แล้ว ขอเพียงโกงแล้วคุณภาพชีวิตในสังคมครอบครัวเขาดีขึ้น ไม่ต้องมีหนี้ ธ.ก.ส. ไม่มีหนี้นอกระบบ พอมีเงินเก็บไว้ยามจำเป็นบ้าง เขาก็พอใจแล้วการบริหารงานของรัฐบาลแล้ว

หลักคิดง่ายๆ อย่าใช้วิธีสกปรก ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น “เลิกซะทีเหอะนะกราบตีนละ(ภาษายุคพ่อขุนรามฯ)”หันกลับมาให้หลักคิดที่แสนจะโคตรง่ายเลย  หากอยากได้คะแนนเสียงจากประชาชน ง่าย นิดเดียว คือเราต้องทำทุกอย่างให้ดีกว่ายุคผ่านมา ประชาชนจะเทเสียงให้ทันที ที่คุณภาพชีวิตในครอบครัวเขาดีขึ้น รัฐบาลได้ประโยชน์รับความชื่นชมแน่นอน ยุคนี้มึงทำดีแค่นี้ ยุคกูทำให้ดีกว่ายุคมึง ก็แค่นั้นง่ายมั้ย(ภาษาพ่อขุนมาอีกแล้ว)

ท้ายนี้ฝาก ทุกกระทรวงทบวง กรม มาให้ความสำคัญกับปัญหาเดิมๆรายวัน คลั่งยา โรคจิต  หัวร้อน  ไม่ใช่ปัญหาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยเดียวรัฐบาลต้องไปทบทวนวางแผนป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเพิ่มมากขึัน หรือค่อยๆลดลง จนหมดไป เนี่ยแหละที่ประชานชนต้องการ “การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือการป้องกันปัญหา”นะจ๊ะ.. !! คุณเศรษฐา สร.1