นายกฯ มอบสัญญาที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุ 434 ราย ตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” สนองนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เผย 5 เดือนจัดสรรที่กว่า 9,000 ไร่ ให้ 500 ครอบครัว
วันที่ 19 ก.พ. 67 เวลา 10.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอหนองวัวซอ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบสัญญาที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการวิสาหกิจชุมชนในการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ และจับคู่ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและวิสาหกิจชุมชน โดยมีรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 อธิบดีกรมธนารักษ์ ห้วหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน
นายเศรษฐากล่าวว่ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มามอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุในวันนี้ โดยที่มาของการดำเนินการดังกล่าว สืบเนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญกับที่ทำกินของประชาชนทุกคน และได้รับทราบว่าทางกองทัพมีที่ดินอยู่ในการดูแลจำนวนมาก จึงได้พูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องและได้ศึกษาข้อมูลในเชิงลึกเพื่อจะนำที่ดินดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ให้กับประชาชน โดยยังคำนึงถึงภารกิจของกองทัพในการดูแลด้านความมั่นคง รักษาความปลอดภัยและรักษาเอกราช ให้เกิดความสมดุลกัน
“ตั้งแต่วันแรกที่ผมเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับแม่ทัพทุกท่าน รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในฐานะกำกับกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน และได้หารือกันที่จะนำที่ดินที่เหลือและไม่ได้ใช้การดูแลด้านความมั่นคงมาเป็นที่ทำกินให้กับประชาชน โดยภายในระยะเวลา 4 – 5 เดือน สามารถจัดสรรพื้นที่กว่า 9,000 ไร่ ให้ประชาชนกว่า 500 ครอบครัว ได้ใช้ประโยชน์ ทั้งที่อยู่อาศัย และเป็นที่ทำมาหากิน” นายเศรษฐากล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ถือเป็นการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนทั้งภาคประชาชนและกองทัพไทย และจะไม่หยุดยั้งในการที่จะทำงานต่อไป โดยจะมีการขยายการดำเนินการไปในจังหวัดนครพนม สมุทรปราการ กาญจนบุรี และจังหวัดอื่นด้วย ทั้งนี้นอกจากกองทัพบกแล้ว ทางกองทัพอากาศ กองทัพเรือ ก็มีส่วนร่วมที่จะแบ่งปันพื้นที่ให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน เช่นกัน
นายเศรษฐากล่าวว่า กองทัพตระหนักดีว่าประชาชนต้องเอาที่ดินเหล่านี้ไปทำมาหากินทางการเกษตร เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว แต่ปัญหาใหญ่คือระบบชลประทาน ซึ่งหากไม่บริหารจัดการให้ดีก็จะมีน้ำท่วมน้ำแล้ง ซึ่งกองทัพร่วมกับรัฐบาลก็ได้จัดการระบบชลประทานอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความมั่นใจว่าทุกพื้นที่ที่มอบให้กับประชาชนมีน้ำกินน้ำใช้เพียงพอ
ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่แค่ให้พื้นที่อย่างเดียว แต่มีการดูแลให้ครบให้ประชาชนมีสิทธิทำมาหากินได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งสิทธิทำกินเหล่านี้สามารถนำไปกู้เงินและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญในการหาแหล่งเงินทุนมาเป็นต้นทุนทำหลาย ๆ อย่างได้ในอนคต
“วันนี้ที่มารับมอบสัญญาเช่าฯ มีหลายครอบครัว แต่ยังไม่สิ้นสุด จะมีการมอบสัญญาเช่าฯ เพิ่มอีก ขอแสดงความยินดีกับประชาชนทุกคนที่ได้รับมอบสัญญาเช่าฯ สิทธิทำกินดังกล่าว และขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ทำให้มีวันนี้ได้ เพราะรัฐบาลเองทำงานคนเดียวไม่ได้ ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ มีส่วนช่วยให้เกิดขึ้น ยืนยันว่ารัฐบาล กองทัพ เข้าใจถึงปัญหาของประชาชน และจะดำเนินการขับเคลื่อนไปด้วยกันต่อไป” นายกฯ กล่าวทิ้งท้าย
จากนั้นนายเศรษฐาได้แสดงสัญลักษณ์เปิดงานด้วยการปักหมุดลงบนแท่นเพื่อเปิดงานอย่างเป็นทางการ และได้มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” จำนวน 434 ราย ซึ่งวันนี้มีผู้เช่าที่ราชพัสดุที่มารับมอบสัญญาเช่าฯ จำนวน 299 ราย จากนั้น ก็ได้เดินพบปะทักทายประชาชนที่มาร่วมงานอย่างเป็นกันเอง
ทั้งนี้ กอ.รมน. จะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลการบริหารจัดการที่ดินในความครอบครองของกองทัพให้ประชาชนใช้ประโยชน์ โดยยึด “หนองวัวซอโมเดล” เป็นต้นแบบ ในพื้นที่อื่น ๆ ของกองทัพ ซึ่งในระยะแรก นอกเหนือจากโครงการหนองวัวซอแล้ว ยังมีพื้นที่อื่น ได้แก่ พื้นที่ของกองบัญชาการกองทัพไทย บริเวณบ้านแก่งประลอมและบ้านพุราด อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พื้นที่ของกองทัพอากาศ บริเวณสนามบินนครพนม จ.นครพนม และพื้นที่ของกองทัพเรือ บริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ เพื่อให้การใช้ที่ดินของประเทศเกิดประโยชน์สูงสุดตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป