ผู้ช่วยฯสำราญ นำชุดสืบสวนนครบาล 6 แถลงทลาย3เครือข่ายค้ายาเสพติด นานกว่า9เดือน ยึดยาบ้า10ล้านเม็ด – เคตามีน 60 กก. เตรียมกระจายลงชุมชน
วันที่ 8 ก.พ.67 พล.ต.ท.สําราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาเสพติดออนไลน์ โดยการขยายผลครั้งนี้สามารถจับกุม นายวัฒนา (สงวนนามสกุล) หรือป๊อบ อายุ30ปี ชาวลพบุรี พร้อมของกลางยาบ้า จํานวน 10 ล้านเม็ดและเคตามีน 60 กิโลกรัม รถกระบะตู้ทึบ 1คัน จับกุมได้ บริเวณริมถนนเทพารักษ์ ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ถูกดำเนินคดีในข้อหา “จําหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจําหน่าย/ จําหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2(เคตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจําหน่าย
พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.กก.สส.บก.น.6 เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการขยายผลจากการจับกุม จากเครื่อข่ายยาเสพติดย่านพุทธมณฑลที่มีการจับกุมไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 พ.ย.66 โดยจับกุมได้ผู้ต้องหา 2 ราย คือนายต้นฯ และนายณรงค์เกียรติฯ พร้อมของกลางยาบ้า 3 ล้านเม็ด, ยาไอซ์ 24 กิโลกรัม และยาอี 9,000 เม็ด ซึ่งยอมรับว่า ยาเสพติดดังกล่าวรับมาจากเครือข่ายยาเสพติดย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ จากนั้นจึงได้ขยายผล สืบสวนเฝ้าสะกดรอย ใช้เวลากว่า 2 เดือน ติดตามพิสูจน์ทราบแหล่งที่เก็บยาเสพติด และตัวบุคคลที่อยู่ในขบวนการเครือข่ายยาเสพติด
จนกระทั่งเมื่อ วันที่ 7 ก.พ.67 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ต้ารวจสืบสวนนครบาล 6 ได้เฝ้าระกดรอยผู้ตัองหากลุ่มเครือข่ายยาเสพติดย่านบางบ่อ บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง 5 ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พบ นายวัฒนา ขับรถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 2 ฒฮ 6841 กทม. ออกจากที่พักมุ่งหน้า จ.อยุธยา และต่อมาได้ขับรถยนต์ กลับมาย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ จนมาถึงบริเวณริมถนนเทพารักษ์ ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ ตํารวจที่ได้เเสดงตัว เข้าจับกุมตัว จากการตรวจค้น พบยาบ้า จํานวน 10 ล้านเม็ด บรรจุอยู่กระสอบ จํานวน 50 กระสอบ บรรทุกอยู่ในกระบะตู้ทึบ และรับว่ายังมียาเสพติด เก็บไว้ที่บ้านเลขที่ 66/126 หมู่บ้าน วโรซา 5 ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ตรวจสอบพบยาเคตามีน 60 กิโลกรัม
ทั้งนี้ สอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายาเสพติตตังกล่าวได้รับคำสั่งจาก ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นไลน์ชื่อว่า “DEVILL” ให้ทําหน้าที่ไปรับยาเสพติดตามสถานที่ต่างๆ และนํามาเก็บไว้เพื่อรอนําส่งให้แก่ลูกค้าที่มารับในพื้นที่ โดยได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ 120,000 บาท ส่วนเงินค่าจ้างที่ได้นำมาใช้จ่ายภายในครอบครัว และรักษาบิดาที่ป่วย จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาเคยถูกตําเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดใน ข้อหาเสพยาเสพติด 2 คดี (ปี พ.ศ.2557 และพ.ศ.2564) และครอบครอบเพื่อจําหน่ายยาเสพติด .1 คดี (ปี พ.ศ.2562 ศาลตัดสิน จําคุก 2 ปี 6 เดือน)
ด้าน พล.ต.ท.สําราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นการขยายผลครั้งที่ 5 โดยก่อนหน้านี้ มีการขยายผลเครือข่ายดังกล่าวไปแล้วถึง 4 ครั้ง รวม3เครือข่ายใช้ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 9 เดือน ซึ่งต้องบอกว่าชุดสืบเองก็ต้องใช้ความอดทนในการ สืบสวนจนนำมาสู่การจับกุมเครือข่ายดังกล่าวได้ โดยเชื่อว่ายาจำนวนดังกล่าวนั้นจะนำไปกระจายลงชุมชน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงต้องบอกว่าถ้ายาจำนวนดังกล่าวลงไปยังพื้นที่ชุมชนแล้วจะจับกุมค่อนข้างยากจึงต้องมีการประสานให้มีการจับกุมตั้งแต่ต้นทาง ส่วนต้นทางของยาล็อตดังกล่าว เชื่อว่า มาจากทางด้านจ.กาญจนบุรี ทั้งนี้ได้มีการกำชับเรื่องการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ กรุงเทพฯ พยายามควบคุมพื้นที่ ขณะที่ทางตำรวจไซเบอร์เองก็ได้มีการติดตาม ความเคลื่อนไหว การขายยาเสพติดในโลกออนไลน์อีกด้วย
ส่วนกรณีที่นิด้าโพล เผยผลสำรวจ ว่าคนไทยยังไม่พึงพอใจในเรื่องของการ ปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่นั้นตนขอเน้นย้ำว่า ในเรื่องของผู้เสพทางเจ้าหน้าที่ ได้ใช้วิธีชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งในส่วนนี้ อาจจะต้องใช้เวลา ส่วนมาตรการอื่นๆ ในเรื่องของการป้องกัน เรามีการตึงกำลังชายแดน เพื่อป้องกันการนำเข้า ส่วนการปราบปรามนั้นนอกจากการจับกุมดำเนินคดี เราได้มีการนำกฎหมายในเรื่องของการสบคบกระทำความผิดฐานฟอก นำไปสู่การเงินยึดทรัพย์ เข้ามาจัดการกระบวนการยาเสพติดด้วย และอยากฝากไปถึงประชาชน หากพบ พื้นที่เสี่ยง ที่ได้รับผลกระทบจากยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นจุดเสพ ผู้เสพที่มีอาการคุ้มคลั่ง หรือจุดพักยาเสพติด ก็สามารถแจ้งมาที่สายด่วน191 ได้ทันที
โดยครั้งที่ 1. วันที่ 10 มิ.ย.66 จับกุมนายเอกรัตน์ฯ เป็นการล่อซื้อเฮโรอีนทางทวิตเตอร์ในพื้นที่ สน.ศาลาแดง ได้ของกลาง เฮโรอีน 14.80 กรัม / ครั้ง 2. วันที่ 19 ก.ค.66 จับกุมตัวนายกิติพงศ์ฯ และนายสมศักดิ์ฯ ข้อหา จําหน่ายยาเสพติดฯ ของกลาง ยาไอซ์ 2 กก. และเฮโรอืน 375 กรัม เครือข่ายฝั่งธนบุรี พื้นที่ สน.เพชรเกษม (สืบสวนขยายผลจากนายเอกรัตน์ฯ) ครั้งที่ 3. วันที่ 19 ก.ค.66 จับกุมตัวนายวินัย และนายชวการ ข้อหา จําหน่ายยาเสพติดฯ ของกลาง ยาบ้า 228,000 เม็ด, เคตา มืน 36 กก./ ยาไอซ์ 31 กก./ เฮโรอีน 1,125 กก. เครือข่ายฝั่งธนบุรี พื้นที่ สน.ตลาดพลู (สืบสวนขยายผลจากนายกิติพง์ฯ) ครั้งที่ 4. วันที่ 9 พ.ย.66 จับกุมตัวนายต้นฯ และนายณรงค์เกีรยติฯ ข้อหา จําหน่ายยาเสพติดฯ ของกลาง ยาบ้า 3,080,000 เม็ด/ยาไอซ์ 24 ก.ก. /ยาอี 9,000 เม็ด/ อาวุธปีน 1 กระบอกพร้อมกระสุน 16 นัด เครือข่ายย่านพุทธมณฑล พื้นที่ สภ.พุทธมณทล จ.นครปฐม (สืบสวนขยายผลจากนายวินัยฯ) และครั้งที้ 5. วันที่ 7 ก.พ.67 จับกุมตัวนายวัฒนา ข้อหา จําหน่ายยาเสพติดๆ .ของกลาง ยาบ้า 10 ล้านเม็ด, เคตามีน 60 กก.เครือข่ายย่านบางบ่อ สมุทรปราการ พื้นที่ สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ (สืบสวนขยายผลจากนายต้นฯ)
