สืบบช.น.รวบ”แอ๊ด เซนโบลต์”ตระเวนลักสายไฟทั่วกรุง – อ้างเป็นอดีตนักวิ่งลมกรด ตร. ไล่ไม่ทัน

305

ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล กำหนดให้มีการจับกุมเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ที่สร้างความเสียหายแก่ประชาชนและสาธารณประโยชน์ รวมถึงความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุน

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ,พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ ,พ.ต.อ. นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ ,พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ,ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์, ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ทำการจับกุมตัว นายวรวุฒิ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 3 หมายจับ คือ

(1) หมายจับศาลอาญาที่ 321/2567 ลงวันที่ 23 มกราคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนและพกพาอาวุธปืน ติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” (สน.บางซื่อ)

(2) หมายจับศาลอาญาที่ 4203/2566 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไปในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”(สน.พญาไท)

(3) หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 28/และ2567 ลงวันที่ 25 มกราคม 2567 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ฯ,พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ.”

พร้อมตรวจยึดของกลางส่ง สน.ลาดพร้าวดังนี้ อาวุธปืนพกสั้น ดัดแปลง สีดำ จำนวน 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุนปืนพกสั้น จำนวน 1 ซอง เครื่องกระสุนปืน ขนาด .380 ออโต้ จำนวน 4 นัด

ดยพฤติการณ์ในการก่อเหตุ ผู้ต้องหาจะตระเวนลักสายเคเบิลและสายไฟตามจุดที่ไม่ค่อยมีผู้คนอาศัย พื้นที่กรุงเทพ ลักษณะการก่อเหตุจะตัดสายเคเบิลตามระยะที่ต้องการและเมื่อตัดเสร็จแล้วจะนำสายเคเบิลไปผูกกับท้ายรถกระบะ ของตนเองแล้วขับลากไปให้สายเคเบิลนั้นหลุดออกมา สาเหตุที่กระทำแบบนี้เพราะเพื่อนผู้ร่วมกระทำความผิดเมื่อก่อนโดนจับกุมหมดแล้วเหลือแต่เพียงตนที่ยังไม่ถูกจับ จึงต้องใช้รถกระบะของตนเป็นเครื่องทุ่นแรง เมื่อนำสายเคเบิลมาได้แล้วตนจะนำสายเคเบิลไปเผาไฟเพื่อนำเอาทองแดงไปขายแต่เนื่องจากสายเคเบิลที่ตนเองลัก มานั้นมีจำนวนมาก จึงต้องนำสายเคเบิลเหล่านี้ไปเผาบริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำในกรุงเทพจำนวนหลายจุดในแต่ละจุดจะไม่ซ้ำกันเมื่อเผาสายเคเบิล ได้แล้วจึงนำทองแดง ไป ทยอยขายให้กับ ซาเล้งรถรับซื้อของเก่า แต่ตนจะไม่นำทองแดงทั้งหมดไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าเพราะว่าจะทำให้ เกิดเป็นที่สงสัย รายได้จากการก่อเหตุละครั้ง ประมาณ 30,000 – 40,000 บาท จำนำไปใช้จ่ายในครอบครัว

ผู้ต้องหาให้การว่า 3 หมายจับที่ตามจับไม่ได้ เพราะว่าเมื่อตอนผู้ต้องหาอยู่ ม.2 เคยเป็นนักกีฬาวิ่ง 4×100 ตัวโรงเรียน เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหาจะสวมวิญญาณนักวิ่งลมกรด อดีตตัวแทนโรงเรียนหลายสมัย วิ่งหนีการจับกุมตามหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลายครั้ง จึงทำให้รอดพ้นจากการจับกุมมาได้ทุกครั้ง

จากการตรวจสอบ พบนายวรวุฒิ เคยก่เหตุหลายคดี ดังนี้ สภ.รัตนาธิเบศร์ 1 คดี ,สน.สายไหม 4 คดี , สน.คันนายาว 1 คดี ,สน.ยานนาวา 1 คดี, สน.บางซื่อและ สน.พญาไท จากนั้นได้ตัวส่ง สน.บางซื่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



พล.ต.ต.ธีรเช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่าคนร้ายรายนี้ลักสายไฟฟ้าเป็นการสร้างความเสียหาย และความเดือดร้อนให้กับประชาชนมาก จากการจับกุมมีการพกอาวุธปืนในรถยนต์ ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัย ถ้าท่านพบเหตุใดๆให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว อย่าเข้าดำเนินการด้วยตนเอง

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #สืบนครบาล