ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงผลปฏิบัติการร่วมไทย-จีน บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์และแก๊งพนันออนไลน์ ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ในพื้นที่4จังหวัด ทั้งกรุงเทพฯ นนทบุรี ชลบุรี และภูเก็ต รวม 14 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 34 ราย แบ่งเป็นผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์19 ราย เป็นชาวจีน 17 ราย พม่า1ราย ชาววานูอาตู1 ราย และผู้ต้องแก๊งพนันออนไลน์จับกุมได้15ราย เป็นชาวจีน 9 ราย เมียนมา3ราย และที่ราบสูงอีก3 ราย สามารถตรวจยึดทรัพย์สินทั้งรถยนต์หรู โฉนดที่ดิน และเงินสด รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันจับกุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่19 กรกฎาคมที่ผ่านมา

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ตั้งฐานอยู่ในจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ มีความเจริญ และ มีเทคโนโลยีเข้าถึงได้ง่ายสะดวกต่อการติดต่อสื่อสาร โดยพฤติการณ์ของแก๊งนี้ได้ทำการตั้งตัวเป็นบริษัทการเงิน ปล่อยเงินกู้ โดยโฆษณาผ่านทาง วีแชท ทำให้คนจีนทั่วไปทราบใครหลงเชื่อจะติดต่อขอเงินกู้ ซึ่งต้องมีวงเงินเครดิตก่อน และ ดำเนินการต่างๆผ่านระบบวีแชท โดยจะหลอกให้โอนเงินเข้ามาแล้วคนร้ายก็จะถอนเงินและปิดวีแชทแล้วหนีไป นอกจากนี้ยังพบผู้เสียหายชาวจีนที่ถูกแก๊งดังกล่าวหลอก จนตัดสินใจผูกคอฆ่าตัวตาย เนื่องจากถูกหลอกเงินซึ่งเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายคิดเป็นเงินไทยจำนวนกว่า 2.5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีการตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยแล้วปั่นหุ้นในตลาดหุ้นจีน เจ้าหน้าที่จึงทำการค้นบริเวณห้างฟอร์จูน ย่านรัชดา จากการสืบสวนพบว่าแก๊งคนร้ายดังกล่าวได้ตั้งบริษัทตั้งแต่ปี2558 หลังจากนี้จะประสานกับตลาดหลักทรัพย์ประเทศจีนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

พร้อมกันนี้ นายเฉิน จูน (Mr.chen Jun) ได้กล่าวขอบคุณ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ และทางคณะตำรวจประเทศไทยที่ให้ความร่วมมือและการวางแผนการปฏิบัติงานได้อย่างดีตลอดมา หากประเทศไทยต้องการความช่วยเหลือทางประเทศจีนก็จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เช่นกัน