รวบ2ผัวเมีย หลอกเปิดศูนย์กระจายสินค้าทิพย์-รับฝากขายสินค้าคิดเงินรายเดือน พบเหยื่อกว่า40ราย

500



ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบปราบปรามอาชญากรรมได้ออกลาดตระเวนออนไลน์รับทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชน ได้พบเห็นการกระทำ มีมิจฉาชีพชื่อ นายนัฐกฤตกับน.ส.ภานิดา สองคนผัวเมียเปิดเพจชื่อ “TMA ONLINE MARKETING” กับเพจชื่อ “ขวัญจิรา วรเวชสุทธิกุล” มีพฤติการณ์ โพสต์ว่ารับผลิตสินค้าและเป็นศูนย์กระจายสินค้าพวกเครื่องสำอางมีร้านค้าในเครือกว่า1,000 สาขาทั่วประเทศและมีสาขาในประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยมีการจดทะเบียนบริษัทถูกต้องที่การจ้างพนักงานเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ลงทุนจ้างยิงแอดโฆษณาทางสื่อออนไลน์ เมื่อมีผู้เสียหายติดต่อมาก็จะเสียค่าฝากวางสินค้าขายเป็นรายเดือนหลักหมื่นและให้ส่งสินค้าให้ไปจำหน่าย บางรายไม่มีสินค้าก็จะรับจ้างผลิตสร้างแบรนด์ให้ด้วยเมื่อผู้เสียหายจ่ายค่าวางสินค้าหรือโอนเงินค่าจ้างผลิต สุดท้ายสูญทั้งเงินสูญทั้งสินค้าถ้าผู้เสียหายรายใดไปโพสต์ประจานในเพจก็จะข่มขู่จะดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทและ พ.ร.บ. คอมฯ มีการจ้างทนายประจำบริษัทด้วยเพื่อช่วยเรื่องคดี ถ้าโดนผู้เสียหายฟ้องร้อง มีผู้เสียหายเยอะมูลค่าความเสียหายจำนวนมากและยังมีหมายจับติดตัว 3 หมายจับ

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เมื่อเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากการรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชา จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. เร่งรัดรีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัว บุคคลตามหมายจับที่เป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเอาเป็นเครื่องมือใช้กระทำความผิดทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน หลอกฝากขายสินค้าในโซเชียล

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธีวร์ราธิป ชูดวง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ร.ต.ท.พีระเกียรติ ศิริฤทัยวัฒนา ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ สนิทไทย ร.ต.ต.สุนทร จันทะแจ่มรองสว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม นายณัฐกฤต (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี และ น.ส.ภานิตา อายุ ๓๓ ปี ที่อยู่ ๑๑๕ หมู่ ๒๓ ต.หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 387/2566 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง,พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์


พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้เสียหายได้ถูกมิจฉาชีพหลอก อ้างเป็นเจ้าของศูนย์กระจายสินค้าและรับฝากขายสินค้ารวมทั้งรับผลิตสร้างแบรนด์สินค้าพวกเครื่องสำอางมีการเก็บเงินค่าฝากขายเป็นรายเดือน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อว่าผู้ต้องหามีการเปิดบริษัทและมีการขายสินค้าได้จริงได้จ่ายเงินล่วงหน้าค่าฝากขายจำนวนหลักหมื่นและมีการส่งสินค้าให้แก่ผู้ต้องหามูลค่าหลักแสนจนถึงหลักล้าน บางคนก็โอนเงินค่าผลิตสินค้าให้แก่ผู้ต้องหาจำนวนมาก สุดท้ายไม่ได้รับสินค้าและสินค้าที่บางรายเอาไปฝากขายก็ไม่ได้เงินคืนสูญทั้งเงินสูญทั้งสินค้า ถ้ามีผู้เสียหายรายใดที่ติดตามทวงหรือจะฟ้องร้องก็จะเจรจาขอคืนสินค้าซึ่งสินค้าใกล้จะหมดอายุทำให้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก หรือถ้ามีใครไปโพสต์หน้าเพจของผู้ต้องหาก็จะข่มขู่ว่าจะให้ทนายประจำบริษัทฟ้องดำเนินคดีทำให้ผู้เสียหายกลัว ไม่กล้าไปโพสต์ประจาน โดยในชั้นจับกุม นายนัฐกฤตและน.ส.ภานิดาได้ให้การภาคเสธไม่ได้หลอกผู้เสียหายโดยอ้างว่าบริษัทของตัวเองทำถูกต้องตามกฎหมายแต่มีปัญหาช่วงโควิดและมีผู้เสียหายบางคนเข้าใจผิดไปฟ้องร้องพวกตนแต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อแต่อย่างใด


ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า ในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการฝากขายสินค้าหรือสั่งผลิตสินค้าต้องได้เห็นบริษัทหรือโรงงานจริง และบริษัทมีการดำเนินธุรกิจจริงไม่ใช่ติดต่อกันทางโซเชียลแล้วก็ตกลงจ่ายเงินหรือโอนเงินให้เลย หรือแม้แต่การทำสัญญาต่างๆแต่ไม่เคยได้เจอตัวเจ้าของแม้แต่ครั้งเดียว การซื้อขายทางออนไลน์ต้องมีร้านที่เชื่อถือได้เพื่อป้องกันการหลอกฝากขายสินค้า และถ้าสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #สืบนครบาล