ตร.แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นเด็กม.2แทงเพื่อนดับ ยังไม่ชัดเป็นเด็กพิเศษ รอผลตรวจสุขภาพจิต !!

523

รองโฆษกตร.เผย ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น เด็กม.2 แทงคอเพื่อนดับ ยังไม่ชัดเป็นเด็กพิเศษรอผลตรวจสุขภาพและสอบปากคำ ระบุ ผบ.ตร.สั่งกำชับทำคดีรอบคอบ ขอสื่อและโซเชียลระวังนำเสนอข้อมูลส่วนบุคคล

วันที่ 29 ม.ค.67 เวลา 14.30 น.ที่ ตร. พ.ต.อ.หญิง ฉันฉาย รัตนพานิช รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุนักเรียนมัธยมใช้อาวุธมีดแทงคอเพื่อนเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่ สน.คลองตันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าหลังเกิดเหตุทางตำรวจนครบาลคลองตัน ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบปากคำที่ สน.พร้อมเชิญเจ้าหน้าที่ทีมสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำและนำไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นไว้ก่อน และหลังจากตรวจสุขภาพแล้วเสร็จ ภายใน24ชม.จะส่งไปตัวไปศาลเยาวชนและและครอบครัวกลางตาทขั้นตอน พร้อมระบุว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ดำเนินการเร่งรัดติดตามคดีนี้อย่างรอบคอบ ครอบคลุมทุกมิติ เพราะผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตยังเป็นเด็กและเยาวชน และขอความร่วมมือสื่อมวลชนและสื่อโซเชียลมิเดีย ระมัดระวังการนำเสนอหรือแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลด้วย ไม่ว่าจะเป็นชื่อจริงและรูปภาพ

ส่วนสาเหตุ ยังต้องรอผลการสอบปากคำอย่างและการดำเนินการตามขั้นตอน เพราะผู้ก่อเหตุเป็นเด็ก ส่วนผู้ก่อเหตุจะเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการนำตัวไปตรวจสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตโดยต้องรอผลการวินิจฉัยของแพทย์

รองโฆษก ตร.กล่าวว่าหากพบว่าเป็นเด็กพิเศษ ตามขั้นตอนจะต่างจากผู้ต้องหาที่เป็นเด็กธรรมดา 2 เรื่อง คือ ขั้นตอนแรกหากไม่สามารถต่อสู้คดีได้ก็จะงดสืบสวนในคดีนั้น แต่หากสามารถสู้คดีได้ ก็จะมอบให้ผู้อนุบาล หรือข้าหลวงประจำจังหวัดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องนำตัวไปดูแลรักษาตามเหตุสมควร ทั้งนี้ ส่วนการตรวจสอบคงใช้เวลาไม่นานเพราะมีกระบวนการอยู่แล้วเนื่องจากเป็นคดีสำคัญและประชาชนให้ความสนใจและ ทาง ผบ.ตร. ก็กำชับ ไปทาง ผบช.น.แล้ว ให้ดำเนินการอย่าวรอบคอบทุกมิติ

อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เคยระบุว่า จะศึกษารวบรวมสถิติการก่อเหตุของเด็กและเยาวชน เพื่อให้กระทรวงยุติธรรมนำไปพิจารณาในการปรับแก้ข้อกฎหมายการดำเนินคดีกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีนั้น คาดว่าในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการรวบรวมข้อมูลเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ เนื่องจากต้องมีการแยกข้อมูลประเภทของคดีอย่างละเอียดเพื่อให้ข้อมูลเกิดความชัดเจนก่อนจะส่งให้กระทรวงยุติธรรมต่อไป

ผู้ว่าฯชัชชาติ สั่งดูเข้ม ตรวจอาวุธก่อนเข้า รร. พร้อมส่งแพทย์ดูแลจิตใจครู-นร. ด้านผู้กํากับ ยันชัด! ผู้ก่อเหตุพูดรู้เรื่องเหมือนเด็กปกติ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเด็กนักเรียนชั้น ม.2 ก่อเหตุใช้มีดปลอกผลไม้แทงคอเพื่อนร่วมชั้นจนเสียชีวิตว่า ตนเองเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องของคดีความให้ทางเจ้าหน้าที่ตํารวจเป็นผู้ดําเนินการ แต่สิ่งที่สําคัญที่สุดคือการดูแลสภาพจิตใจนักเรียนและครูโดยจะให้นักจิตวิทยาเข้ามาดูแลในส่วนนี้

ด้าน พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตํารวจคุมตัวนักเรียนที่ก่อเหตุเพื่อทําการสอบปากคําพร้อมกับทีมสหวิชาชีพ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นและพกพาอาวุธมีด” ส่วนกรณีกระแสข่าวว่าผู้ก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษนั้น ตนเองยืนยันว่าจากการพูดคุยเบื้องต้นผู้ก่อเหตุพูดคุยรู้เรื่องและสามารถตอบคําถามได้ตามปกติเหมือนเด็กทั่วไป ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการส่งตัวไปตรวจอย่างละเอียดว่าเข้าข่ายเป็นเด็กพิเศษจริงหรือไม่ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นให้การทํานองว่ามีปัญหาทะเลาะกันแต่ไม่บอกว่าเรื่องอะไร ซึ่งจะต้องมีการสอบถามอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่จากการสอบถามเพื่อนร่วมชั้นทุกคนยืนยันว่าทั้งคู่เล่นกันตามปกติแต่อาจจะมีการหยอกล้อกันจนเกิดความไม่พอใจและก่อเหตุขึ้น

ขณะที่ผู้อํานวยการโรงเรียน ยืนยันว่า ทางโรงเรียนมีมาตรการความปลอดภัยโดยการสุ่มตรวจอาวุธอยู่เป็นประจํา แต่ยอมรับว่าการจะตรวจค้นเด็กทุกคนนั้นเป็นเรื่องที่ยากและละเอียดอ่อน ส่วนเรื่องของการบูลลี่ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุถูกบูลลี่ โดยปกติแล้วทางโรงเรียนจะไม่ใช้ความรุนแรงกับนักเรียนจะใช้เหตุผลในการพูดคุย และจากการสอบถามครูประจําชั้นพบว่าผู้ก่อเหตุไม่มีพฤติกรรมรุนแรงเพียงแต่ชอบเล่นและอยู่คนเดียวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ระบุว่า เบื้องต้นประเด็นของการบูลลี่และเด็กพิเศษนั้น ขอให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดเสียก่อน ทั้งนี้ กทม. โรงเรียนมัธยม 1 – 6 เพียง 9 แห่ง และโรงเรียนมัธยม 1 – 3 กว่าร้อยโรงเรียน ซึ่งจะต้องดูแลอย่างเข้มงวดเพราะนักเรียนวัยนี้เกิดความขัดแย้งได้ง่าย โดยจะเข้มงวดในการตรวจอาวุธให้มากขึ้น

ขณะที่ เวลา 13:00 น. มีผู้ปกครองหลายท่าน เดินทางเข้ามารับนักเรียนกลับบ้านแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่งของนักเรียนทั้งหมดและคาดว่าผู้ปกครองจะเดินทางมารับนักเรียนทั้งหมดก่อนเวลาเลิกเรียนในวันนี้

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #รองโฆษกตร #ฉันฉายรัตนพานิช