บ่อยครั้งเมื่อเกิดเหตุความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตำรวจจะเป็นหน่วยงานแรกที่ถูกนึกถึงและต้องพึ่งพาให้ช่วยเหลือ จนมีเสียงสะท้อนทำนองเปรียบเปรยจากตำรวจว่าทำหน้าที่ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ

แม้แต่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ลงมติยกเลิกครูเข้าเวรโรงเรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)เพื่อขอตำรวจช่วยตรวจตราความปลอดภัยในโรงเรียนทันที
หรือแม้แต่เกิดเหตุรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด แล้วประสบอุบัติเหตุกลางเมืองหลวง ตำรวจโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าปล่อยปละละเลยหรือรับส่วยรถบรรทุก ทั้งที่เครื่องมือในการชั่งน้ำหนักรถบรรทุกไม่มีอยู่ในมือด้วยซ้ำ
อย่างเหตุการณ์รถบรรทุกดินจากการก่อสร้างคอนโดมิเนียมหรูกลางกรุง ตกบ่อร้อยสายไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง บริเวณปากซอยสุขุมวิท 64/1 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ตำรวจถูกสังคม สื่อ อดีตตำรวจหิวแสงรุมขยี้กันยกใหญ่ เรียกร้องให้มีสอบสวนว่ามีการทุจริตรับส่วยรถบรรทุกหรือไม่ ซึ่งผลสอบของจเรตำรวจออกมาสวนทางกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ คือไม่พบว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องหรือรับส่วยรถบรรทุกแต่อย่างใด สร้างความเคลือบแคลงใจให้กับประชาชนพอสมควร แต่ประชาชนบางส่วนไม่ได้ติดใจเพราะรู้ๆกันอยู่ว่ารถบรรทุกน้ำหนักเกินจะต้องจ่ายค่าต๋งให้เจ้าหน้าที่รัฐหน่วยไหนบ้าง แต่หากตรวจสอบลึกถึงความเป็นจริง ตำรวจนครบาลไม่ได้มีอำนาจในการตั้งด่านเพื่อจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินที่วิ่งบนถนนในเมืองหลวงได้ทุกสาย เพราะไม่ใช่พนักงานทางหลวงท้องถิ่น
ดังนั้นเพื่อเพิ่มอำนาจให้ตำรวจจราจรในนครบาล สามารถจับกุมรถบรรทุกหนักได้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้ตำรวจจราจรเป็นเจ้าพนักงานทางหลวง กรุงเทพมหานคร(กทม.)เพื่อช่วยปราบปรามรถบรรทุกน้ำหนักเกิน
ซึ่ง น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย บอกว่า “เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องปรามการกระทำผิดบนทางหลวงท้องถิ่น ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่นกรณีรถบรรทุกเกินน้ำหนักให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นายอนุทิน ลงนามในคำสั่งกระทรวงมหาดไทย เรื่องแต่งตั้งเจ้าพนักงานทางหลวงสำหรับทางหลวงท้องถิ่นแก้ไขคำสั่งฉบับเดิม โดยเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้เป็นเจ้าพนักงานทางหลวง สำหรับทางหลวงท้องถิ่น ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากเดิมที่มีเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ เจ้าพนักงานทางหลวงท้องถิ่น จะทำหน้าที่ในการดูแลให้มีการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ทางหลวง พ.ศ.2535 และแก้ไขเพิ่มเติม อาทิ การตรวจตราไม่ให้มีการฝ่าฝืนตาม พ.ร.บ.ทางหลวงฯ การเรียกตรวจยานพาหนะที่เชื่อว่ามีการกระทำผิดกฎหมายฉบับนี้ จับกุมผู้กระทำผิดเพื่อส่งให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ
ตามคำสั่งเดิมเจ้าพนักงานทางหลวง สำหรับทางหลวงท้องถิ่นกรณีกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนงานต่างๆของกรุงเทพมหานครเท่านั้น การเพิ่มตำรวจจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาลเข้ามาด้วย จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย แก้ไขปัญหาต่างๆบนถนนหลวงท้องถิ่น เช่นตรวจจับรถบรรทุกเกินน้ำหนัก ซึ่งพบปัญหาอยู่บ่อยครั้งในกรุงเทพมหานคร”
ทั้งนี้ข้อมูลของ กทม.ระบุว่าปัจจุบันได้ทยอยขึ้นทะเบียนทางหลวงท้องถิ่นไปแล้วประมาณ 2,000 กิโลเมตร ยังเหลือต้องขึ้นทะเบียนอีกประมาณ 3,708.31 กิโลเมตร แยกเป็นถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานเขต ระยะทาง 2,409.17 กิโลเมตร สำนักการโยธา ระยะทาง 1,197.43 กิโลเมตร และหน่วยงานอื่นๆระยะทาง101.71 กิโลเมตร
โดยทางหลวงท้องถิ่นที่ขึ้นทะเบียนแล้วจะต้องมีเจ้าพนักงานทางหลวงท้องถิ่นเข้ามากำกับและบังคับใช้กฎหมายเพื่อเกิดความปลอดภัยและความเรียบร้อยบนทางหลวงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
หากพิจารณาตามคำสั่งนี้พออนุมานได้ว่ากระทรวงมหาดไทย มุ่งที่จะแก้ปัญหาไม่ให้รถบรรทุกแบกน้ำหนักวิ่งบนถนนในพื้นที่ กทม. ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาถนนพังได้แล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาการจราจรได้ด้วย เพราะถ้าถนนไม่ชำรุดรถสามารถวิ่งทำความเร็วได้ และป้องกันไม่ให้รถบรรทุกหนักเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ ถ้าเกิดอุบัติเหตุจะทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก มีตัวอย่างให้เห็นบ่อยครั้ง
ดังนั้นเพื่อให้คำสั่งนี้ได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจังและบรรลุผล ทางกระทรวงมหาดไทย ควรจัดหาอุปกรณ์ชั่งน้ำหนักให้กับตำรวจและเจ้าหน้าที่กทม.ใข้อย่างเพียงพอ
แต่ที่สำคัญผู้ว่าฯ กทม.และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ต้องร่วมกันวางมาตรการป้องกันไม่ให้ตำรวจจราจรและเจ้าหน้าที่ กทม. ใช้เป็นช่องทางในการหาประโยชน์โดยมิชอบ หากเจอกระทำผิดต้องสั่งลงโทษแบบเฉียบขาดทันที
เพราะคำสั่งฉบับนี้เสมือนดาบสองคม ถ้าบังคับใช้แบบตรงไปตรงมาจะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม แต่ถ้าถูกนำไปใช้แบบฉ้อฉลจะกลายเป็นเครื่องมือหาประโยชน์เข้าตัวเองและผู้บังคับบัญชา เคสนี้ “น.1 ผบช.จ้าว”ตงฉินเป็นไม้บรรทัดนะครับ ใครกล้าหือ เจอจัดหนักแน่ วินัยทางปกครอง อาญาฯมาครบแน่ รอดู ดิ !!!


