“ชลน่าน”นำทีม สธ.ติดตามช่วยเหลือเหตุโรงงานพลุระเบิด-​ส่งทีมMCATTเยียวยาจิตใจ

387

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี นำปลัดกระทรวงสาธารณสุข และทีมผู้บริหาร ลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ติดตามสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุขแก่ผู้ประสบเหตุโรงงานพลุระเบิด พบผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ราย พิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว 20 ราย ส่งทีม MCATT ในพื้นที่ประเมินเยียวยาจิตใจครอบครัวทันที พร้อมให้กรมอนามัยเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

จากเหตุการณ์โรงงานพลุระเบิด ที่ตำบลศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช และวัดโรงช้างสวนแตง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี และให้สัมภาษณ์ว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ซึ่งโรงงานดังกล่าวมีคนงานทั้งหมด 30 คน ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ราย เป็นหญิง 15 ราย ชาย 7 ราย ในจำนวนนี้พิสูจน์อัตลักษณ์ได้แล้ว 20 ราย ล่าสุดยังไม่พบผู้ที่บาดเจ็บส่งเข้ามารับการรักษา
มีเพียงประชาชนในละแวกใกล้เคียงที่มีอาการหูอื้อจากเสียงระเบิด ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ยังมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการระเบิดซ้ำได้

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญในขณะนี้คือการดูแลเยียวยาจิตใจของครอบครัวผู้เสียชีวิต ได้ส่งทีม MCATT จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช และโรงพยาบาลในเครือข่ายเข้าประเมินอาการและให้การดูแลเยียวยาจิตใจแล้ว พร้อมทั้งให้กรมสุขภาพจิตร่วมให้การสนับสนุน ส่วนเรื่อง การพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิต จะมีทีมนิติเวชของโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชเป็นหน่วยดำเนินการ สำหรับผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากสารเคมีของพลุที่ระเบิด เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนา อยู่ห่างจากชุมชนมากกว่า 1 กิโลเมตร ไม่มีแหล่งน้ำบริโภค จึงคาดว่าไม่น่าจะมีผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้กรมอนามัยติดตามเฝ้าระวังเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมด้วย เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง

ปลัด พม. นำทีม พม.หนึ่งเดียว ลงพื้นที่เร่งหาข้อมูลครอบครัวผู้เสียชีวิต เหตุโรงงานพลุระเบิด ที่ จ.สุพรรณบุรี พร้อมเตรียมส่งนักสังคมสงเคราะห์เร่งเยียวยา

วันที่ 17 มกราคม 2567 นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุโรงงานพลุระเบิด ที่ จ.สุพรรณบุรี ทันที ตนได้สั่งการให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี และทีม พม.หนึ่งเดียว จังหวัดสุพรรณบุรี เร่งลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์พร้อมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อได้ข้อมูลบางส่วน จึงได้นำมาวางแผนการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยขณะนี้ ศูนย์กลางการประสานการช่วยเหลืออยู่ที่วัดโรงช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี

นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า กระทรวง พม. วางแผนให้นักสังคมสงเคราะห์เตรียมเข้าประเมินครอบครัว ในวันรุ่งขึ้น (18 ม.ค. 67) โดยให้นักสังคมสงเคราะห์แต่ละคนจะเข้าไปประกบรายครอบครัว ซึ่งข้อมูลของครอบครัวนั้นคาดว่าในวันเดียวกันนี้จะมีความชัดเจน และเราจะรีบประเมินว่าคนในครอบครัวต้องการความช่วยเหลืออย่างไรบ้าง ซึ่งลำดับแรกคือกำลังใจ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคนพิการ ผู้สูงอายุ หรือเด็ก ที่ต้องให้นัก สังคมสงเคราะห์เข้าไปให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจมากไปกว่านี้ และต้องติดตามผลในระยะยาว

นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ต้องดูความต้องการความช่วยเหลือด้านอื่นๆ เช่น บุคคลที่เสียชีวิต มีลูกเล็กหรือไม่ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องรับภาระต่างๆ ซึ่งต้องเข้าไปประเมิน และเข้าช่วยเหลือในเบื้องต้น ส่วนเรื่องอื่นๆ อาทิ เรื่องซ่อมแซมบ้าน โดยหลังจากนี้ กระทรวง พม. ต้องติดตามตลอดอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้คนในครอบครัวเกิดภาวะผลกระทบจากบุคคลที่เสียชีวิต ซึ่งอาจจะเป็นหัวหน้าครอบครัว และคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคนพิการ ผู้สูงอายุ และเด็ก มีความต้องการความช่วยเหลือเชิงสังคม เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ซึ่งกระทรวง พม. ต้องประเมินว่าต้องเติมอะไรบ้าง หากเกินกำลังของกระทรวง พม. ที่จะดูแล จำเป็นต้องเชื่อมการทำงานกับกระทรวงอื่นๆ และนักสังคมสงเคราะห์ต้องเข้าไปประเมินติดตามผลต่อเนื่อง โดยใช้กลไกทีมสหวิชาชีพเข้ามาดูแล จนกว่าสถานการณ์ครอบครัวของผู้ได้รับผลกระทบจะดีขึ้น และมีกำลังใจเดินหน้าต่อไปได้

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์