“รองฯต่าย”ลงพื้นที่โรงงานพลุระเบิด กำชับผู้การสุพรรณเร่งสอบสวน คุมเข้มรักษาที่เกิดเหตุระดมทีม พฐ.และEODหาสาเหตุ !!

372

พร้อมเร่งประสานฝ่ายปกครอง ทีมแพทย์เข้าไป ช่วยเหลือ ดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจครอบครัวของผู้เสียชีวิต

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.(ปป.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัคเดช พิมลศรี และ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต
ผบช.ภ.7ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุกรณีเกิดโรงงานผลิตพลุระเบิด ทำใหัมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งด่วนให้ตนลงตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุทันที ที่ได้รับรายงาน ตนได้รายงานข้อมูลเบื้องต้น ให้ ผบ.ตร.ทราบแล้ว ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิต พลุและประทัดไล่นก ซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่งนาห่างไกลจากบ้านเรือนประชาชนทั่วไป และได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอำเภอเมืองสุพรรณบุรี มีกำหนด 1 ปี หมดอายุวันที่ 24 สิงหาคม 2567 ส่วนผู้ได้รับอนุญาตชื่อนางแสงเดือน ปานจันทร์ เป็นคนเมืองสุพรรณบุรี ขณะเกิดเหตุอยู่ในที่เกิดเหตุพร้อมบุตรชายและลูกจ้างรวม 23 คน ซึ่งเบื้องต้นสันนิษฐานว่าจะเสียชีวิตทั้งหมดในเบื้องต้นไม่มีผู้มีีอาศัยที่อยู่ใกล้บริเวณเคียงได้รับบาดเจ็บเนื่องจากโรงงานตั้งอยู่กลางทุ่งนาและไม่มีบ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบจากการระเบิดครั้งนี้

ตนสั่งการให้ ผบช.ภ.7 และ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ดำเนินการ ให้รักษาที่เกิดเหตุไว้จนกว่าชุดตรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อมให้ชุด EOD จะเข้าตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อน พร้อมทั้งให้เคลื่อนย้ายศพที่พบในที่เกิดเหตุ 20 ศพ ออกจากที่เกิดเหตุไปไว้ที่ห้องเย็นของวัดโรงช้างสุพรรณบุรี เพื่อรอการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลในวันพรุ่งนี้

สำหรับรายชื่อเจ้าของและลูกจ้าง 23 คน ที่ตำรวจได้มา ให้มอบหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปตรวจสอบที่บ้านพัก ก่อนจะยืนยันหรือสันนิษฐาน ว่าเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุ หากการตรวจสอบยืนยันแล้วว่าใครเป็นผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ให้จัดทำข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับบุคคล อายุ เพศ ทีีอยู่และสถานที่ ที่จะประกอบการฌาปนกิจแล้วรายงานให้ทราบโดยเร็ว

ทั้งนี้ ได้สั่งระดมพนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งในเบื้องต้น ประสานฝ่ายปกครอง ทีมแพทย์เข้าไป ช่วยเหลือ ดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจครอบครัวของผู้เสียชีวิต ”รอง ผบ.ตร.กล่าว“

มีรายงานว่า ขณะนี้ยืนยันนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาที่วัดโรงช้าง รวม 21 ศพ เป็นชาย 7 และหญิง 14 ราย อีก 2 ราย อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบ ว่าเป็นชิ้นส่วน หรือไม่โดยให้ ตร.ไปตรวจสอบกับญาติ เพื่อหาข้อมูล ในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #โรงงานพลุระเบิด #สุพรรณบุรี