เมื่อเวลา 19.10 น. วันที่ 16 ม.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางถึง กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมืองสระแก้ว โดยมี นายภูมิวัชร์ อุดมทรัพย์ รอง ผวจ.สระแก้ว , พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว , พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน รอง ผบก.ฯ , พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว , ผกก.สภ.อรัญประเทศ และข้าราชการตำรวจ ร่วมต้อนรับ และเข้าประชุม
โดยทางตำรวจกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว พาตัว นายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก มาพบพูดคุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และหลังจากพูดคุยกันแล้วเสร็จ จะอนุญาตให้สื่อมวลชน เข้าสอบถามถึงเรื่องราวต่างๆได้
โดยหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นลง ได้มีการอธิบายไทม์ไลน์ของที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะประเด็นที่พูดถึงคลิปที่สื่อมวลชนได้มาเผยแพร่ก่อน ซึ่งผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท้องที่เกิดเหตุยืนยันว่า หลังจากที่ ลุงเปี๊ยก ให้การรับสารภาพ ก็ได้รวบรวมเอกสารคำให้การและนำตัวไปฝากขัง
อย่างไรก็ตาม การจะแจ้งข้อกล่าวหาลุงจะต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนมากกว่านั้นทีมสืบสวนจึงทำงานต่อเนื่อง โดยพิสูจน์ทราบจากเส้นทางที่ลุงให้การ แต่เมื่อไปเก็บกล้องวงจรปิดก็ได้พบภาพ ที่ไม่ตรงกับคำให้การของลุง แต่เป็นภาพของกลุ่มเยาวชนที่รุมทำร้ายป้าบัวผัน จากนั้นก็นำรถไปล้าง และแยกย้ายกันไป
โดยหลังจากที่เห็นหลักฐานแล้วผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท้องที่เกิดเหตุบอกว่า ได้ทำบันทึกไปถึงศาลเพื่อขอปล่อยตัว และก็ส่งตัวลุงให้กับพี่สะใภ้ ไม่มีการกักตัวเอาไว้อย่างที่ ถูกสังคมกล่าวหา ว่ามีการให้การช่วยเหลือลูกตำรวจ
ส่วนพ่อของ เยาวชนหนึ่งในห้าซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุและเป็นตำรวจนั้น หลังจากวันเกิดเหตุได้ไปเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา เมื่อเห็นข่าวก็เลยถามลูก ว่าใช่หรือไม่ได้ร่วมกระทำด้วยหรือไม่ เมื่อได้รับคำตอบจึงประสานกับตำรวจเพื่อขอมอบตัว
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า เรื่องนี้เมื่อไล่เรียงเวลาที่เกิดเหตุ ก็ค่อนข้างชัดเจนว่าไม่ได้มีการช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ให้กับลูกหลานตำรวจที่ก่อเหตุ และตำรวจก็ทำหน้าที่ค้นหาพยานหลักฐานเพื่อประกอบสำนวนอย่างเต็มความสามารถ แต่ติดปัญหานิดเดียวคือผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท้องที่ ไม่รับโทรศัพท์และไม่พยายามทำความเข้าใจกับสังคมตามพยานหลักฐานจึงกลายเป็นเรื่องบานปลาย
ทั้งนี้ ได้หารือกับครอบครัวของลุงเปี๊ยกแล้วว่าจากนี้ไปจะต้องให้ลุงเปี๊ยกเข้าสู่กระบวนการบำบัดปัญหาพิษสุราเรื้อรังที่ลุงเป็น และจะส่งลุงไปอยู่กับ พี่สะใภ้ ให้ช่วยดูแลกันไปก่อน ทั้งนี้ก็หวั่นใจว่าหากไม่มีใครดูแล ลุงเปี๊ยกอาจล้มลงและได้รับบาดเจ็บ หรืออาจสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นได้อีก
ด้าน ลุงเปี๊ยกยอมรับ กลางที่ประชุมแถลงข่าวว่าจะขอเข้าสู่กระบวนการบำบัด ส่วนสาเหตุที่ให้การไปนั้นเป็นเพราะเมา ส่วนข้อสงสัยที่หลายคนถามว่าทำไมถึงให้การตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะวัตถุพยานคือเก้าอี้ที่ใช้ในการทำร้ายป้าบัวผันจนถึงแก่ความตาย ลุงเปี๊ยก บอกว่า หันไปเห็นเก้าอี้ที่ตำรวจยกมาพอดีก็เลยพูดออกไป เมื่อถูกสื่อถามว่าจะไปกราบศพป้าหรือไม่ ลุงบอกว่าไม่ไปจะขอเข้าสู่กระบวนการบำบัด