ส่งเสริมสินค้าเกษตร กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน

699

กรมส่งเสริมการเกษตรเชื่อมโยงสินค้าเกษตรวิสาหกิจชุมชนสู่ชมรมร้านอาหารและเครื่องดื่มจ.พะเยา ขยายโอกาสทางธุรกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน

​นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมฯขับเคลื่อนนโยบาย“ตลาดนำ นวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้” โดยจัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการสนับสนุนผลผลิตทางการเกษตรของวิสาหกิจชุมชน ระหว่าง ชมรมร้านอาหารและเครื่องดื่มจ.พะเยา และ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มอนุรักษ์ผลิตภัณฑ์ลิ้นจี่คุณภาพห้วยป่ากล้วย วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรผลิตพืชปลอดภัยตำบลบ้านเหล่า วิสาหกิจชุมชนศูนย์ส่งเสริมและผลิตภัณฑ์ข้าวชุมชนตำบลจุน ณ งานมหกรรมการเกษตรและท่องเที่ยวถนนสายดอกไม้งามริมกว๊านพะเยา จ.พะเยา

ทั้งนี้ เพื่อให้วิสาหกิจชุมชนและชมรมร้านอาหารได้มีพื้นที่ทำงานร่วมกันและวางแผนการผลิตสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับความต้องการตลาด โดยทางชมรมฯมีความต้องการซื้อลิ้นจี่พรีเมียม GI อำเภอแม่ใจ 3 – 4 ตันต่อปี ผักสลัดและผักสวนครัว เช่น กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค คอส ฟักทอง ขิง ข่า ตะไคร้ ในปริมาณ 400 กิโลกรัมต่อเดือน ข้าวสาร กข 15 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ซึ่งมีความหอม นุ่ม ที่เป็นเอกลักษณ์ ปริมาณ 40 ตันต่อปี โดยรับซื้อในราคาที่ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง


อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า ชมรมร้านอาหารฯและวิสาหกิจชุมชน จะมีกิจกรรมความร่วมมือภายใต้ MOU 1) ร่วมวางแผนการผลิตให้ได้ปริมาณ ชนิด/ประเภท มาตรฐานความปลอดภัยอาหารและมีคุณค่าทางโภชนาการตรงความต้องการของร้านอาหาร 2) แลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลความพึงพอใจและความต้องการของผู้บริโภค เพื่อนำไปสู่การพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์

ซึ่งกรมฯจะร่วมทำงานกับทั้งชมรมฯ และวิสาหกิจชุมชน โดยสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการ เช่น สารสกัดสำคัญในกลุ่มพืชผักสวนครัว/สมุนไพร รสชาติของผลไม้ลิ้นจี่ ความหอมนุ่มของข้าวหอมมะลิ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่ปรุงและมีส่วนประกอบจากผลผลิตที่ปลูกในสภาพแวดล้อมของจ.พะเยาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น โดยเชฟที่มีฝีมือจากชมรมร้านอาหารและเครื่องดื่มจ.พะเยา โดยเฉพาะเชฟยุทธภูมิ นันตาแสง ประธานชมรมฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็นเชฟปรุงอาหารอาหารให้แก่คณะรัฐมนตรีสัญจรที่จ.พะเยา ในช่วงเดือน ก.พ.67

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์