ตร.MOUจัดการภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพจิตอย่างไร้รอยต่อ-ร่วมมือระงับเหตุคลุ้มคลั่ง!!

482

ตร. จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการจัดการภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพจิตอย่างไร้รอยต่อบูรณาการความร่วมมือระงับเหตุจากบุคคลคลุ้มคลั่ง

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 ธ.ค. ที่ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการจัดการภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพจิตอย่างไร้รอยต่อ โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงส์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข เรืออากาศเอกอัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ผู้แทนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และนายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกต์ ผู้แทนจากกรมสุขภาพจิต เป็นผู้แทนเข้าร่วมพิธีลงนาม


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า การลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรม จึงเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ ในการร่วมกันสร้างความปลอดภัยทุกมิติขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่ง ตร.มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนแนวทางดําเนินการ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ปัญหาบุคคลคลุ้มคลั่ง หรือผู้ป่วยจิตเวช ส่งผลกระทบต่อประชาชน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทำให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก กลายเป็นปัญหาหลักของประเทศ ที่จำเป็นต้องมีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน


ด้าน พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ในปี พ.ศ.2563 ตร.ได้พบว่าสถิติการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากการปฏิบัติหน้าที่ มาจากการเข้าไประงับเหตุบุคคลที่มีความผิดปกติทางจิตที่เกิดขึ้นจากการใช้สารเสพติด หรือที่ตำรวจเราเรียกว่าคนคลุ้มคลั่ง ซึ่งก่อเหตุโดยใช้มือเปล่าหรือมีดสั้นเพียงเท่านั้น นอกจากนั้นยังพบว่าสถิติคนคลุ้มคลั่งที่ก่อเหตุในชุมชนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ตร. โดยศูนย์บริหารงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ในขณะนั้นจึงได้มีการ Reskill เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อปรับปรุงรูปแบบในการเข้าไประงับเหตุ หรือ ที่เรียกว่า “SOP” นำไม้ง่าม รวมถึงปืนไฟฟ้าซึ่งเป็นอาวุธไม่ถึงตาย นำไปใช้ในการระงับเหตุ ส่งผลให้ปัญหาการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจและการก่อเหตุทำร้ายคนในชุมชนโดยคนคลุ้มคลั่งลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ


ด้าน นายแพทย์โอภาส กล่าวว่า วันนี้เป็นการทำความเข้าใจที่ตรงกัน เพราะต้องยอมรับว่าสภาพสังคมมีคนคลุ้มคลั่งเยอะมากๆ ซึ่งเขาจะเป็นอันตรายต่อตัวเขาเองและเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ เพราะฉะนั้นวิธีการปฎิบัติจะต้องบูรณาการและทำงานร่วมกัน
สำหรับพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือฯ ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนเพื่อระงับเหตุซึ่งเกิดจากคนคลุ้มคลั่ง หรือบุคคลที่มีภาวะผิดปกติทางจิต และเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ป่วย และครอบครัวในการดูแลรักษาที่เหมาะสม เข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน และสามารถรักษาอาการป่วยได้อย่างทันท่วงที รวมถึงการให้บริการทางการแพทย์ฉุกเฉินที่ดีมีประสิทธิภาพ บุคลากรที่เกี่ยวข้องมีทักษะในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นและก่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์