“วราวุธ” นำทีม พม. หนึ่งเดียว ติดตามความคืบหน้าช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความรุนแรง จ.หนองบัวลำภูเมื่อปี 65 พร้อม กำชับ จนท.ทำงานเชิงรุกป้องกันเกิดเหตุร้ายซ้ำอีก
วันที่ 3 ธันวาคม 2566 เวลา 10.40 น. ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชั่วคราว บริเวณโรงเรียนบ้านหนองกรุงศรีโพธิ์ศรีสมพร ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวง พม. ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรง เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้รายงานผลและแผนการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมมอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวเด็กในครอบครัวยากจน จำนวน 71 ราย มอบชุดของขวัญสำหรับเด็กเล็ก และเยี่ยมชมการเรียนการสอนเด็กเล็กระบบมอนเตสซอรี่ (Montesssori) นอกจากนี้ ได้เยี่ยมชมการออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ “บ้านรัตนาภา สัญจร” โดยศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา จังหวัดขอนแก่น และบูธแสดงผลงานและจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเครือข่ายเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ โดยได้รับทุนประกอบอาชีพของกระทรวง พม.
ขณะที่ นายวราวุธ กล่าวหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เกี่ยวข้องว่า การเดินทางมาลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ สำหรับหัวใจการทำงาน ซึ่งตนได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่ว่าขอให้เร่งเรื่องการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นอีก ตนจึงได้ให้แนวทางกับเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่เฉพาะพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ว่าขอให้ปี 2567 เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ อย่าให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนเมื่อปี 2565 แม้เราต้องทำงานเหน็ดเหนื่อย แต่ต้องยอมเหนื่อยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตซ้ำ เพราะถ้าเหตุเกิดขึ้นแล้ว เราจะยิ่งเหนื่อยหนักขึ้นอีก
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การทำงานเชิงรุกต้องมีความร่วมมือกันทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เพราะตนเชื่อว่าทุกหมู่บ้านและผู้นำท้องถิ่นรู้ดีว่าจุดเปราะบางหรือจุดเสี่ยงของแต่ละหมู่บ้านอยู่ที่ครอบครัวใดบ้าง ฉะนั้น อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) จึงทราบดีและต้องเข้าไปพูดคุยเพื่อแก้ไขสถานการณ์เสียก่อน พร้อมประเมินว่าหากสถานการณ์แย่ลง จะต้องหามาตรการอื่นเข้าไปแก้ไข โดยการทำงานเชิงรุกจะต้องเน้นการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและเหตุการณ์ต่างๆ มิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายแก่ทุกฝ่าย ขณะเดียวกัน ตนเชื่อว่าการทำงานในพื้นที่จะต้องมีการพัฒนาต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่เหตุการณ์ความรุนแรงใน จ.หนองบัวลำภู ครบรอบ 1 ปี มีการถอดบทเรียนอะไรหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่ มีความเข้มแข็ง รวมถึงเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะใน จ.หนองบัวลำภู ได้มีความร่วมมือจากจังหวัดข้างเคียงด้วย เพราะบางเหตุการณ์เกินกำลังกว่าเจ้าหน้าที่ในจังหวัดเดียวจะสามารถดำเนินการได้ สำหรับ 1 ปีที่ผ่านมา ถือว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วหวังว่าความเข้มแข็งเหล่านี้ จะเป็นแรงผลักดันให้พื้นที่ ต.อุทัยสวรรค์แห่งนี้มีความเข้มแข็งทั้งทางร่างกายและจิตใจ
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงบ่ายของวันนี้ (3 ธ.ค. 66) ตน พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านเพื่อให้กำลังครอบครัวเด็กชายถูกทำร้ายร่างกายในเหตุการณ์ความรุนแรง พร้อมทั้งมอบอุปกรณ์และวัตถุดิบสำหรับการประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว ช่วยสร้างรายได้ให้สามารถเลี้ยงดูครอบครัวต่อไปได้