จะได้ใช้ไหม เงินดิจิทัล 10,000 บาท ?

23230

หลังจาก สภาการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ระบุว่าตัวเลขจีดีพีของประเทศต่ำลง และเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข มีการถกเถียงกันในฝ่ายการเมืองว่าตกลงแล้วตอนนี้ “วิกฤต” มากจนถึงครั้งต้องกระตุ้นครั้งใหญ่เหมือนปั๊มหัวใจหรือยัง ?

ปัญหาที่ต้อง “ครุ่นคิด”ให้ดีมีหลายจุด หลายภาคส่วนเห็นตรงกันว่า “การกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ” เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง แต่หลายคนได้ออกมาท้วงติง “วิธีการของรัฐบาล” ที่กำลังเดินหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 โดยสุดท้ายแล้วจะใช้วิธีการกู้มาแจก แต่ไม่ได้แจกในลักษณะเงินสด ซึ่งจุดนี้จะไม่สามารถทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ?

หลายคนตั้งข้อสังเกตและพยากรณ์ปลายทางออกว่าสุดท้ายแล้ว โครงการนี้ อาจเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่มากกว่า หรือไม่ เพราะหัวใจอยากให้คนเข้าระบบภาษี ตามี ยายมา คนทำกับข้าวขายเล็กๆ คนทำอุตสาหกรรมในครัวเรือน หวาดกลัวหากต้องโดนภาษีย้อนหลังเมื่อตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ อันเป็นภาพปรากฎเหมือนตอนอดีตเมื่อเข้าร่วมโครงการในสมัยรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งคนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ หรืออื่นๆ ปรากฎว่าบางรายถูกประเมินภาษีเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคที่ทำให้ร้านค้าขนาดเล็กไม่กล้าเข้าร่วมโครงการ และสุดท้ายน้ำทุกสายจะไหลไปสู่ “ท่อใหญ่” นั่นคือท่อของเจ้าสัวที่มีร้านค้ารายล้อมทุกไม่กี่สิบเมตร สุดท้าย“พายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่” ที่รัฐบาลชอบอ้างถึง จะไม่ปรากฎ จะมีเพียงละอองน้ำเล็กๆที่ไม่เกิดภาพการกระตุ้นหรือไม่เป็นสิ่งที่น่าคิดให้ดีอย่างมาก

เพราะนี่ยังไม่รวมถึงการออก พ.ร.บ.กู้เงินฯ ซึ่งสุ่มเสี่ยง ที่จะเกิดสถานการณ์เงินเฟ้อ ความเสี่ยงต่อการออกกฎหมายที่ขัดรัฐธรรมนูญ และกฎหมายทางการเงินอีกหลายฉบับ ร้านเล็กๆ หรือกลุ่มเป้าหมายคือผู้มีรายได้น้อยจริงๆ มากกว่า20ล้านคน เงินไม่ ลงไปถึงฐานราก การกระตุ้นเศรษฐกิจจะไม่เกิด ? เงินที่แจกจะหมุนเวียนได้4-5รอบตามที่ต้องการ จริงหรือเป็นคำถามที่ไม่มีใครตอบได้เลย แต่ที่แน่ๆ “การกู้” ดูจะเป็นพายุลูกใหญ่ที่จะเกิดขึ้นจริงเพราะไม่ว่าใครจะได้เงิน10,000รือไม่ แต่ทุกคนได้สิทธิร่วมใช้หนี้ด้วยกันทั้งสิ้น!

ณ ตอนนี้เราเองก็ยังไม่เห็นการ ตัดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลง เช่น งบก่อสร้างที่ไม่จำเป็น งบจัดอบรมสัมมนา งบดูงาน หรืองบหลายตัวที่ถูกมองว่าเป็นงบที่ให้ไว้ใช้หาเสียง รวมถึงการจัดซื้ออาวุธยุทธโธปกรณ์ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลไม่ต้องกู้หรือกู้เราก็กลับไม่เห็นในจุดนี้

วันนี้รัฐบาลเข้ามาน่าจะควรจะกำหนดทิศทางให้ประเทศชัดเจนเพื่อให้ประชาชน ภาคธุรกิจ ภาคการเกษตร ทุกภาคส่วนเข้าใจทิศทางการพัฒนาในแต่ละด้านของประเทศจะทำอะไรบ้าง เรากำลังจะเดินไปทางไหนกันแน่ ? เช่น เรื่องเศรษฐกิจ ปัจจุบันเราอยู่ตรงไหน เราจะมุ่งไปสู่อะไร กลับกลายเป็นว่า “การแจกเงิน1หมื่นนบาท” เป็นเรื่องเดียว เป็นโลกเพียงใบเดียวที่รัฐบาลกำลังหมุนรอบเรื่องนี้ ในการเดินหน้า ต่อสู้ ตั้งรับ มีเรื่องนี้เป็นแกนหลัก ควบคู่ไปกับการเชื้อเชิญนักลงทุนจากต่างประเทศ แต่ผู้ประกอบการในประเทศวันนี้เขายังขาดอะไร และยังมีข้อจำกัดต่างๆอยู่เยอะมากเราก็ไม่ทราบว่ารัฐบาลรู้หรือไม่ ?

คำถามสำคัญของหลายฝ่ายมองว่าหากโครงการนี้ดำเนินไปแล้วไม่ได้ผลสำเร็จจนเงิน5แสนล้านกลายเป็นภาระของประเทศใครจะรับผิดชอบ ? หากคิดมาไม่รอบคอบ ผลจะตกเป็นภาระของปรเทศและของประชาชนผู้ใช้หนี้ จะ4ปีหรือ10ปีที่กู้มา สุดท้ายประชาชนคือผู้ใช้หนี้อยู่ดี ท้ายที่สุดไม่อยากให้รัฐบาลนี้เกิดภาพเปรียบเทียบว่าไม่เห็นแตกต่างจากรัฐบาลลุงตู่ ที่กู้มาแจกแล้วไม่ได้ใช้เทคโนโลยีอะไรใหม่ ก็ทำให้คนตัวเล็กรายย่อยไม่ได้ข้าร่วมโครงการ…