“หลวงปู่คร่ำ”พระเกจิฉายา”เทพเจ้าแห่งภาคตะวันออก”

9079

พระเกจิอีกหนึ่งรูปที่ได้ฉายาว่าเทพเจ้าแห่งภาคตะวันออกสามารถเสกเป่าให้ผู้มาขอพรได้สมหวังจนมีคำกล่าวว่ามนต์หลวงปู่เฮี้ยน

อ่านสนุกแบบมีทั้งศรัทธาและพาณิชย์ไปกับ คอลัมน์พระบ้าน by ต้นคนชอบพระ

    เมื่อราวปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2536  รัฐบาลได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เมื่อมีการตั้งกระทรวงใหม่ก็ย่อมจะต้องมีการสรรหาเจ้ากระทรวง บรรดา ส.ส.ผู้ทรงเกียรติต่างก็หมายมั่นปั้นมือเพื่อจะได้เป็นรัฐมนตรีประจำกระทรวงกันทั้งนั้น พยายามสรรหาวิธีการสารพัดงัดกันขึ้นมาแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งและช่วงโค้งสุดท้ายก่อนหน้าที่จะมีการประกาศรายชื่อผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานไม่กี่วัน นายเสริมศักดิ์ การุณ ส.ส.ระยอง กับ นายไพฑูรย์ แก้วทอง ส.ส.พิจิตร ได้พากันไปกราบหลวงปู่คร่ำให้หลวงปู่เจิมหน้าผาก รดน้ำมนต์ เป่ากระหม่อมให้หลังจากนั้นไม่กี่วัน หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ไทยรัฐ พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งเลยว่า “มนต์ หลวงปู่เฮี้ยน ”  ปรากฏว่าท่าน ส.ส. ทั้งคู่ได้เป็นรัฐมนตรีสมดั่งที่หลวงปู่อวยพร จนกระทั่งมาอีกครั้งหนึ่งก็การแต่งตั้งอธิบดีตำรวจที่ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ที่อกหักจากมติ กตร. 2 รอบแล้ว และก่อนที่จะมีการลงมติกันอีกครั้ง ท่าน พล.ต.อ. ประทินว่าที่ อธิบดีตำรวจ ก็ขอให้หลวงปู่คร่ำ รดน้ำมนต์ และเป่ากระหม่อมให้ เมื่อผลการแต่งตั้งออกมา ชื่อของ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ คือนัมเบอร์วันของกรมตำรวจจริงๆ ยิ่งทำให้ชื่อของหลวงปู่ คร่ำ แห่งวัดวังหว้า จังหวัดระยอง โด่งดังอีกทั้งยิ่งตอกย้ำถึงความเข้มขลังและพลังจิตตานุภาพของหลวงปู่ได้เป็นอย่างดี

    ( รูปผ้ายันต์พัดโบกมหาลาภ หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง )

แม้ ณ กาลปัจุบันผันผ่านหลวงปู่ท่านได้ละสังขารไปนานแล้วแต่ความเข้มขลังและพลังแห่งจิตที่อาศัยอำนาจพุทธคุณยังคงปรากฏให้เห็นเป็นประจักษ์ผ่านวัตถุมงคลของท่านอยู่เนืองๆอย่างเช่น เมื่อปีพุทธศักราช 2560 ได้เกิดเสียงร่ำลือขึ้นในวัดสระแก้ว ม.3 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จนทำให้ผู้สื่อข่าวต้องเดินทางไปค้นหาความจริงถึงบริเวณวัดสระแก้ว ภายในวัดพบกับช่างกำลังบูรณะพระ อุโบสถกันอยู่ มีการรื้อหลังคาโบสถ์ออก สังเกตบนหลังคาโบสถ์ พบเสา ไม้ไผ่ที่มีผ้ายันต์ผืนใหญ่สีขาวและสีแดงถูกมัดติดอยู่บนเสาไม้ไผ่ พัดโบกสะบัดอยู่บนหลังคาโบสถ์

จากการสอบถามนายอนันตโชค ปทุมเจริญ อายุ 37 ปี ช่างผู้รับเหมา บูรณะพระอุโบสถ วัดสระแก้ว เกี่ยวกับผ้ายันต์กันฝนตก เปิดเผยถึง สาเหตุของการนำผ้ายันต์ขึ้นไปติดว่า สำหรับผ้ายันต์ผืนดังกล่าว เป็นผ้า ยันต์พัดโบก ของหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง เกจิ ชื่อดังของภาคตะวันออก ที่สร้างขึ้นเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และกันฝนตก กันมรสุม มีประสบการณ์เกี่ยวกับการไล่ฝนไม่ให้ตก และมีการนําไปใช้กันฝนตกในงานพิธีกลางแจ้งต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ฝนตกระหว่างจัดงาน และได้ผลมาทุกงานจนถูกเรียกอีกชื่อว่า ผ้ายันต์กันฝน

ส่วนกรณีที่ต้องนำผ้ายันต์มาติดในการบูรณะพระอุโบสถครั้งนี้ เนื่องจาก ต้องเริ่มงานในฤดูฝน และจําเป็นต้องรื้อหลังคาโบสถ์ออก เกรงว่าหากฝนตกลงมาภายในพระอุโบสถจะเกิดเสียหาย จนมีผู้ใหญ่ที่นับถือแนะนำ และให้ผ้ายันต์ผืนนี้มา เมื่อได้มาก็อัญเชิญผ้ายันต์พัดโบกผืนนี้ขึ้นไปบน หลังคาโบสถ์ จุดธูประลึกถึงหลวงปู่คร่ำาและขอให้ช่วยพัดไล่ให้ ฝนไปตกที่อื่นจนกว่าจะซ่อมหลังคาโบสถ์เสร็จเรียบร้อย จากนั้นจึงเริ่มลงมือ บูรณะตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันฝนก็ไม่เคยตกหนัก เลย บางวันฟ้าตั้งเค้ามืดไปด้วยกลุ่มเมฆแต่กลับไปตกในพื้นที่รอบๆ วัด แทน บางพื้นที่ห่างจากวัดเพียงไม่ถึง 5 กม.ฝนตกหนักจนน้ำท่วม แต่ที่วัด ไม่มีฝนตกลงมาเลย จึงเชื่อว่าเกิดจากความศักดิ์สิทธิ์ของผ้ายันต์พัดโบก หลวงปู่คร่าผืนนี้ เพราะเหลือเชื่อมากกับการห้ามฝนได้ในช่วงมรสุม จน ชาวบ้านต่างทึ่งและเชื่อในอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ของผ้ายันต์หลวงปู่

   ( รูปหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า )

             

หลวงปู่คร่ำ ท่านเป็น พระสงฆ์ร่วมยุคกับ พระอาจารย์ทิม ธัมมธโร วัดช้างให้, หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดเลยหลง จ.เลย, หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก อ.พนัส นิคม จ.ชลบุรี, หลวงปู่บุดดาวัดกลางชู ศรีเจริญสุข, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี, หลวงพ่อเกษม เขมโก จ.ลำปาง, หลวงปู่จู วัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี, หลวงปู่เริ่ม ปรโม วัดจุกกะเฌอ จ.ชลบุรี ฯลฯซึ่งแต่ละชื่อที่เอ่ยมาล้วนเป็นเกจิอาจารย์ผู้มีจริยวัตรงดงามและเข้มขลังด้วยพลังแห่งจิตทุกท่าน

หลวงปู่คร่ำ เกิดที่บ้านวังหว้า เมื่อวันพุธที่ 20 ต.ค. 2440 ในช่วงเยาว์วัยบิดามารดาพาไปฝากไว้ที่วัดวัง หว้า อ.แกลง จ.ระยอง เริ่มเรียนประถม ก.กา กับพระ จนสามารถอ่านออกเขียนได้ นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาตำราวิชาการต่างๆ ควบคู่กัน โดยได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ของหลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง เพื่อเรียนวิปัสสนากัมมัฏฐานและตำราแพทย์แผนไทย

ตำแหน่งหน้าที่สำคัญ เริ่มจาก พ.ศ. 2464 เป็นเจ้าอาวาสวัดวังหว้า พ.ศ.2474 เป็นเจ้าคณะ หมวดเนินฆ้อ พ.ศ.2479 เป็นเจ้าคณะตำบล พ.ศ.2486 เป็นพระอุปัชฌาย์ ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2474 เป็นพระครูชั้นประทวน พ.ศ.2481 เป็นพระครูสัญญาบัตร ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นตรี ปี 2521 เป็นพระครูสัญญาบัตรตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด ราษฎร์ชั้นโท ปี 2537 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอกที่ พระครู สุตพล วิจิตร พ.ศ.2539 ได้รับพระ ราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระมงคลศีลา จารย์

มรณกาลของ หลวงปู่คร่ำ ท่านได้ละสังขาร ในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2540  เวลาประมาณ 14.00. ด้วยอาการสงบ ณ โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา ท่ามกลางความเศร้าโศกอาลัยของสานุศิษย์และสาธุชนทั่วประเทศนับล้านคนที่ได้ทราบข่าวต่างหลั่งไหลมากราบ เคารพศพที่วัดวังหว้าตลอดช่วง ๑๕ วัน ที่บำเพ็ญกุศล

หลวงปู่คร่ำเป็นพระที่มีจิตใจเมตตาแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ไม่เลือกชนชั้น  ด้วยท่านเป็นพระหมอต่อกระดูกที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ คนที่ขา แขนและกระดูกส่วนอื่นหัก ท่านสามารถรักษา ให้หายมานับไม่ถ้วน

    หลักธรรมะคำสอนของหลวงปู่คร่ำที่ท่านยึดถือ คือ “ทำให้ดู อยู่ให้เห็น”

  ( รูปเหรียญรุ่นต่างๆของหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า

      

ท่านยังเป็นพระเกจิที่เชี่ยวชาญวิทยาคม ได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคลทั่ว ทุกภาคของ ประเทศ มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องวัตถุมงคล ทุกรุ่นล้วนได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ผู้นิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างๆ โดยเฉพาะเหรียญรุ่น 49-36 รวมถึงพระผงพิมพ์สมเด็จ ฉลองอายุ 99 ปี วัตถุมงคล เครื่องรางของขลังของหลวงปู่คร่ำ มีมากมายหลายอย่าง ทั้งตะกรุดโทนสีผึ้งเมตตา ผ้ายันต์ น้ำมันงา และเหรียญแบบต่างๆ แต่ที่โดดเด่นเป็นที่รู้จักจนเป็นเหมือน สัญลักษณ์ของหลวงปู่คร่ำ คือ ผ้ายันต์พัดโบก มีชื่อเต็มว่า ผ้ายันต์พัดโบกมหาลาภหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง โดยรูปแบบจะแบ่งเป็นสองท่อน

ท่อนบนสีแดงท่อนล่างสีขาวประกอบด้วยรูปหลวงปู่และยันต์หลายชนิด
ผ้ายันต์พัดโบก หลวงปู่ทำขึ้นเพื่อป้องกันวาตภัย เพราะยามที่มรสุมรุนแรง จะพัดทำความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือนของญาติโยมโดยอำนาจของผ้ายันต์พัดโบกจะโบกให้ ลมเปลี่ยนทิศทางรวมทั้ง โบกความชั่วร้ายอื่นๆมิให้มาถึงบ้านเรือนของผู้ที่มีและใช้ในผ้ายันต์นี้ ปัจจุบันผ้ายันต์โบกมหาลาภ ของหลวงปู่คร่ำหายากขึ้นทุกวันใครมีไม่ค่อยปล่อยออกมามักจะเก็บไว้ใช้เลยอยากจะแนะนำวัตถุมงคลอื่นๆของหลวงปู่ โดยเฉพาะเหรียญรุ่นต่างๆเลือกเก็บกันตามอัธยาศัยเพราะอยู่หลักราคาไม่เกินพันแม้จะสวยจัดๆเนื้อดีมีไม่เกินพันกลางก็เล่นหาเช่าเก็บรออนาคตได้ คราวหน้ามาลุ้นกัน ว่าจะนำเสนอองค์ไหนครับ
       
                            เขียนโดย ต้น คนชอบพระ

กราบเรียนเชิญ…

ท่านผู้มีจิตศรัทธา ร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี กับ สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ และ ตระกูลสุขสมนึก  ณ.วัดโปร่งเก่า ต.โปร่งเก่า อ.หนองโดน จ.สระบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย.2566

โดยท่านสามารถ โอนเงิน เช้า บช.วัด โปร่งเก่า บัญชี“วัดโปร่งเก่า”
ธ.กรุงไทย เลขที่ 989-7-75709-0
(บันทึกว่าร่วมทอดกฐิน)

ขออนุโมทามิ สาธุ .. สาธุ…สาธุ…!!!

#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์
#ตระกูลสุขสมนึก
#ชาติชายสุขสมนึก

            ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก สื่อโซเซี่ยล ครับ

ปล. หากมีวัด ศาสนถาน โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯใดที่ต้องการประชาสัมพันธ์การขายวัตถุมงคลหรือบริจาคเพื่อการกุศลอย่างแท้จริง ทางคอลัม์พระบ้าน ยินดีประชาสัมพันธ์ให้ฟรีครับ

สนใจลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ ติดต่อ 0818214442 ต้น