สวัสดีเพื่อนๆนักกิน นักชิมทั้งหลาย พบกับคอลัมน์”กินกับลุงอร่อยเต็มพุงกับลุงดุลย์ ” ทางสื่อออนไลน์ ไทยแทบลอยด์ เป็นประจำทุกวันพุธ
ทริปนี้ลุงพาไปกิน ร้านอาหารที่เคยเป็นร้านลับ ในปัจจุบันไม่เป็นร้านลับเสียแล้ว เพราะผู้คนมากมาย ที่ได้ยินชื่อจากคำบอกเล่า ของนักกินนักชิม และสื่อโซเชียลต่างๆ ทำให้ “ต้องมาพิสูจน์”ว่าร้านลับเช่นนี้เป็นอย่างไร…???
ที่มาของร้านลับ…เป็นร้านที่ต้องเดินผ่านวัด และเปิดตอนดึก(เมื่อก่อนโควิด) ที่สำคัญ มีอาณาเขตติดกับป่าช้าของวัด ทำให้สายกินสายชิม พี่ชอบพิสูจน์ ต้องรีบไป ถ้าอยากกิน ช้าหมด อดแน่ !!
“ร้าน…ป้าล้วน…ต้มเนื้อข้างป่าช้า” วัดอินทร์ บางยี่เรือ
ป้าล้วน ต้มเนื้อ…. เป็นร้านต้มเนื้อแบบโบราณ ที่ขึ้นชื่อมาช้านาน เรื่องความอร่อย ร้านเปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้า มาช้าเกิน 10 โมง หมดสิทธิ์ มิหนำซ้ำ ร้านยังอยู่ติดกับป่าช้าวัดอินทร์ ทางเข้าชุมชนวัดอินทร์ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ของชุมชนเขตบางยี่เรือ
เมื่อก่อนป้าล้วนแกจะเปิดร้านตอนตี 2 ขายไปจนถึง 7 โมงเช้าก็หมดแล้ว เป็นร้านต้มเนื้อที่เปิดร้านติดกับป่าช้า ยิ่งมาเปิดร้านตอนกลางดึก… ทำให้ฟังดูแล้ว“น่าสยอง”และน่ากลัว แต่ถ้ามาได้มากินของอร่อยที่ร้านนี้ ความสยองก็เป็นเพียงแค่ชื่อ เพราะความอร่อยแบบสะใจ ในการต้มเนื้อและปรุงรสชาติแบบ“ชามต่อชาม” อยากได้รสชาติไหนขอให้บอกป้าล้วน ป้าล้วนจัดให้ เนื้อต้มแต่ละชาม ปรุงรสมาได้เข้มข้น จี๊ดจ๊าด ถ้าได้กินแล้ว ทำให้ลืมความสยองไปในทันทีทันใด.แต่กลายเป็นความอร่อยเข้ามาแทนที่
ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ซดต้มเนื้อที่ปรุงแบบต้มยำ มีมะนาวและพริกขี้หนูสด และน้ำปลา เป็นสารตั้งต้น ได้ซดแล้ว ไล่ความเหน็บหนาวในยามเช้าได้ดีทีเดียว
ด้วยความอยากกินเป็นอย่างมากลุงดุลย์เดินทางมาถึงที่วัดอินทร์ประมาณ 6โมงกว่าๆ (เดินสวนพระที่ออกบิณฑบาตร) เดินผ่านวัดเข้าไป ผ่านศาลาที่ประดิษฐานของสมเด็จพระเจ้าตากสิน เดินเข้าไปทางด้านหลังวัดที่ติดกับป่าช้า ไม่น่าเชื่อ เวลาเช้าแบบนี้ มีคนมารอคิวกินเนื้อต้มป้าล้วนกันแล้ว ลุงได้คิวที่ 30 ไหนๆมาแล้ว บวกกับความอยากกิน ก็ต้องรอ
ครึ่งชั่วโมงกว่าๆผ่านไป ก็เป็นคิวของลุง ลุงสั่งเกาเหลารวมเครื่องในแบบต้มยำให้ป้าเขาปรุงมาเสร็จ แล้วต่อด้วยเกาเหลาลูกชิ้น เนื้อสด สดเนื้อกรอบ เอาแบบพิเศษจัดเต็ม ชามละ 100 บาท ข้าวชามละ 10 บาท
เนื้อเปื่อยและเครื่องใน ต้มออกมาได้ดี นุ่มละมุน ไม่มีกลิ่นคาวของเครื่องในเลย ปรุงรสชาติมาได้จัดจ้าน ส่วนเกาเหลาอีกชามลุงสั่งมาปรุงเอง โดยใช้เครื่องปรุงแบบก๋วยเตี๋ยวเนื้อทั่วไป รสชาติของน้ำซุป ออกเซ็งๆซดชื่นใจ เรียกว่าเป็นร้านต้มเนื้ออีกหนึ่งร้าน ที่ต้องบันทึกไว้ในการตระเวนกินของลุงดุลย์ นอกเหนือจากร้านต้มเนื้อชื่อดังที่เคยไปกินมาแล้ว อย่างเช่น“หม่องราชบพิธ”และ“ร้านป๋าเหมี่ยว”ท่าดินแดง(อิสรภาพ)
อิ่มแล้ว…ลุงเดินกลับ(สวนกับพระที่กำลังกลับจากบิณฑบาต) มารอรถเมล์ เพื่อนั่งรถเล่นย่อยอาหาร เป็นทริปแรกที่ลงดุลย์ต้องตื่นเช้า เพื่อมาพิสูจน์ความอร่อย ที่ร้านต้มเนื้อป้าล้วนข้างป่าช้า ….!!
พบกันใหม่ในวันพุธหน้า กับคอลัมน์“กินกับลุงอร่อยเต็มพุงกับลุงดุลย์” ทางสื่อออนไลน์ไทยแทบลอยด์…สวัสดี
ลุงดุลย์
