ประชาชนอยากเห็น”ป.ป.ช.”เร่งอ่านคำสั่งที่สอบคดีโกงทุกคดีเสร็จแล้ว แต่กลับซุกเงียบ อาจโดนประชาชน ตั้งข้อครหาว่ารับปัจจัยก้อนใหญ่ หรือเปล่า.????

อ่านข่าวคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)กระตือรือร้น ตั้งคณะกรรมการพิจารณาศึกษาโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยอ้างน่าห่วงใยหรือมีความสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการทุจริตหรือผลกระทบด้านเศรษฐกิจในระยะยาว ถึงขั้นให้ความสำคัญจัดเป็นวาระเร่งด่วน
ทำให้รู้สึกปลื้มที่คณะกรรมการป.ป.ช.ขยันขันแข็ง แต่ไม่แน่ใจว่ามีอะไรซ่อนอยู่หรือไม่ หรือเป็นการรับไม้ต่อจากกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ ซึ่งล้วนแต่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด หากทำด้วยความบริสุทธิ์ใจถือเป็นผลดีที่กันไว้ดีกว่าแก้
แต่ถ้าจะให้การปราบปรามการทุจริตเห็นผล เป็นที่หวาดผวาของพวกฉ้อราษฎร์บังหลวงทั้งหลาย คณะกรรมการ ป.ป.ช.ต้องเร่งสะสางคดีทุจริตที่กองพะเนินให้บรรลุโดยเร็วจะดีกว่า ไม่ใช่มาเพิ่มงานที่ยังไม่ได้ลงมือทำโดยไม่จำเป็นทำให้เกิดเสียงซุบซิบกันว่า คดีจำนวนมาก ที่คณะกรรมการชุดอนุฯ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลว่าผิดจริง แล้วส่งให้องค์คณะ ป.ป.ช.ชุดใหญ่อ่านคำสั่ง แต่กลับดึงเรื่องซุกเงียบ ส่วนจะจริงไม่จริง คนใน ป.ป.ช.เองน่าจะรู้กันดี.? ว่ากันว่าการดึงเรื่องซุกไม่ยอมมีคำสั่งให้ผลกระทำผิดใหัสาธารณะได้ทราบกัน แถมมีการเปิดตัวเลขที่ต้องดูแลการการซุก ดึงเรื่องด้วยเม็ดเงินก้อนมหึมา อันนี้จริงไม่จริง ไม่ขอยืนยัน .? แต่ประชาชนก็มีสิทธิ์ที่ตั้งข้อสงสัยได้
เพราะที่ผ่านมา ป.ป.ช.แทบจะไม่มีผลงานอะไรที่ทำให้พวกขี้โกงรู้สึกเกรงขามแต่อย่างใด มีแต่เสียงครหาว่าเลือกปฏิบัติ อย่างคดีแหวนแม่นาฬิกาเพื่อน ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี มีมติยกคำร้อง จบแบบไม่ผิด เป็นที่คาใจของสังคม จนมีการไปฟ้องศาลปกครองกลางให้ ป.ป.ช.เปิดเผยสอบแบบไหนถึงไม่เอาผิด และให้เปิดเผยคำให้การของ พล.อ.ประวิตร 4 ครั้ง ให้เปิดคำวินิจฉัยและคำไต่สวนของป.ป.ช.เป็นอย่างไรให้ประชาชนรู้ โดยศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมด ต่อมา ป.ป.ช.ใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดขอสอบสวนใหม่ได้หรือไม่ ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งออกมาว่าไม่รับคำอุทธรณ์ ทำให้ป.ป.ช.ต้องเปิดผลสอบทั้งหมด คงต้องเดาใจคณะกรรมการป.ป.ช.ที่มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ อดีตเลขาธิการ พล.อ.ประวิตร เป็นประธานจะดำเนินการอย่างไร จะจัดเป็นวาระเร่งด่วน เหมือนศึกษาแจกเงิน 10,000 บาทหรือไม่
หรือคดีที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ยื่นป.ป.ช.ให้สอบนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีคมนาคม ซุกหุ้นบริษัทแห่งหนึ่งที่ระบุว่าเคยเป็นบริษัทของนายศักดิ์สยามมาก่อน เข้ารับเหมางานในกระทรวงคมนาคม รวมถึงคดีอื่นๆที่ส.ส.ก้าวไกลไปร้องระหว่างที่นายศักดิ์สยาม ดำรงตำแหน่ง รวมถึงคดีอื่นที่เกิดในยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็นคดีทุจริตซื้อหน้ากากอนามัย หรือคดีกล่าวหาคณะรัฐมนตรี(ครม.)จัดหาวัคซีนผิดพลาด ส่อทุจริต หรือคดีกล่าวหาจัดหาชุดเอทีเค 8.5 ล้านชุด หรือกรณีครม.ออกมติขัดต่อกฎหมายโดยเอื้อประโยชน์ให้เกิดการทุจริตสต๊อกยางพารา เป็นต้น
นี่คือตัวอย่างคดีเพียงบางส่วนที่เกิดในส่วนกลางพัวพันกับรัฐมนตรีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งน่าจะถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.เก็บซุกไว้
ยังไม่รวมถึงคดีทุจริตในต่างจังหวัดอีกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการทุจริตของนักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการประจำ หรือคดีที่นักการเมืองทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่น จับมือกับข้าราชการ ร่วมกันโกง โดยเฉพาะคดีฮั้วประมูลก่อสร้าง รวมคดีทุจริตในวัดดัง อาทิ วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร ซึ่งคดีเหล่านี้ส่วนใหญ่มีการร้องไปถึงป.ป.ช.ทั้งระดับจังหวัดและส่วนกลางให้สอบสวนแล้ว แต่หลายคดีการสืบสวนสอบสวนล่าช้าผิดปกติ
บางคดีถ้าผู้เกี่ยวข้องมีอิทธิพล อำนาจเงินล้นเหลือ ถูกร้อง จะได้ยินเสียงนินทาว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบางคนเก็บซุกไว้ หรือใช้วิธียื้อไว้สอบเมื่อใกล้จะหมดอายุความ เพื่อแลกกับปัจจัยที่ผู้ถูกร้องกำนัลให้ หรือถ้าเป็นคดีใหญ่ที่ชาวบ้านให้ความสนใจเป็นพิเศษ ระดับจังหวัดอยากที่จะรับมือได้ เจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนแล้วชงเรื่องส่งให้ส่วนกลางเพื่อลดกระแส จากนั้นผู้ถูกร้องจะหาช่องทางติดกับเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.นอกแถวเพื่อให้ชี้ช่องทางวิ่งเต้นให้ช่วยยื้อเวลาหรือหาช่องสอบใหม่เพื่อให้หลักฐานอ่อน แต่ละขั้นตอนมีเสียงนินทาว่ามากด้วยของกำนัล
ยิ่งคดีที่ร้องกับส่วนกลางโดยตรงก็มีเสียงครหาว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.บางคน มีพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้ผู้ถูกร้องแบบเต็มสูบ มีทั้งแบบจ่ายเหมา หรือคอยจ่ายรายเดือน ซึ่งเสียงครหาเหล่านี้เชื่อว่าไม่เป็นความจริง เพราะเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.หรือคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่มีพฤติกรรมการแบบนี้แน่นอน และทุกวันที่ 9 ธันวาคม เป็นวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล ต่างได้ทำสัญลักษณ์ต่อต้านคอร์รัปชั่นและปฏิญาณตนว่าไม่โกงอยู่แล้ว
ดังนั้นเพื่อลบเสียงครหาเหล่านี้ให้หมดไป คณะกรรมการป.ป.ช.และเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องเร่งสางคดีที่เก็บซุกไว้ ให้บรรลุผลโดยเร็ว ถ้าจะให้เสียงครหาลดลงโดยเร็ว มีช่องทางเดียว คือเลือกสางคดีอื้อฉาวระดับประเทศก่อน เอานักการเมืองระดับรัฐมนตรีหรือข้าราชการระดับบิ๊ก ที่ถูกร้องแบบข้ามปีสอบสวนให้กระจ่างแล้ว ชี้มูลแจ้งข้อหาจับขึ้นศาลสัก 5-10 คนก่อน รับรองเสียงครหาทางลบจะกลายเป็นเสียงสรรเสริญทันที
แต่ถ้าจะให้ได้ยินเสียงสรรเสริญกระหึ่มทั้งประเทศ ต้องเร่งปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คดีแหวนแม่นาฬิกาเพื่อน อย่างเคร่งครัด แล้วคำครหาว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.เลือกปฏิบัติจะเลือนหายไปเช่นกัน
ไม่เชื่อลองทำดู !!!
