รวบ”อ.เต้ย”อดีตนักปั้น TOP MODEL หลอกขายฝันเหยื่อกว่า 10 ราย สูญกว่า 10 ล้านบาท

2402

“ทีมสืบนครบาล”ตามรวบอาจารย์เต้ย อดีตนักปั้น TOP MODEL THAILAND 2022 จอมปลอม หลอกขายฝันเหยื่อกว่า 10 ราย ความเสียหาย 10 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม  2566   ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล (บก.สส..บช.น.)พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเปยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์  รรท รอง ผบ.ตร. เร่งรัดปราบปราม จับกุม กลุ่มบุคคลหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน รวมถึงกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงที่ขายความฝันและโอกาสให้แก่เด็กที่อยากจะเข้าสู่วงการบันเทิง หลอกลวงให้ผู้ปกครองที่สนใจให้สมัครและอ้างว่าสามารถที่จะนำพาเด็กประกวดเดินแบบและถ่ายแบบทั้งในไทยและต่างประเทศ โอนเงินให้แก่ทางกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นจำนวนรายละกว่า 100,000 – 200,000 บาท อันเป็นการสร้างความเดือดร้อนความผิดหวังให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีความฝัน
โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลรับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มผู้ปกครองที่ตกเป็นเหยื่อ ในพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานครจำนวนหลายรายว่า มีอดีตนักปั้นซึ่งเป็นที่รู้จักในยุคปี 2562 ได้เปิดเฟจ facebook เปิดเพจเฟสบุค ชื่อว่า “Top model 2022” ในสื่อสังคมออนไลน์ ชักชวน ให้ผู้ปกครอง ที่สนใจนำบุตรหลาน เข้าสมัครประกวดการเดินแบบและถ่ายภาพ เพื่อเป็นบันไดเข้าสู่วงการบันเทิง โดยหลอกลวงให้ผู้ปกครองโอนเงิน ค่าใช้จ่ายในการสมัคร และค่าเดินทางไปเดินแบบและถ่ายแบบ ทั้งในและต่างประเทศ

       เข้าบัญชีธนาคารของตน แต่พอถึงกำหนดนัดหมายก็มิได้เป็นไปตามข้อตกลงที่ให้ไว้ จนมีกลุ่มผู้ปกครองจำนวนหลายสิบราย ได้รับความเสียหาย รวมมูลค่ากว่าเกือบสิบล้านบาท พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , และตนพร้อมด้วย  , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก สส.บช.น. จึงได้สั่งการให้ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ประกอบด้วย พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.1 , พ.ต.ต.กฤตวัฒน์ ขุนอินทร์ สว.กก.สส.1ฯ ,.ร.ต.อ.ปรัชญา โคตรสาขา รอง สว.กก.สส.1ฯ, ด.ต.มานพ มากบุญ กับพวกได้จับกุมตัว

        นายจรุงศักดิ์ พุ่มพวง อายุ 51 ปี ภูมิลำเนาพักอาศัย อยู่ที่ 333/108 หมู่บ้านอารีนาการ์เดนท์  ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นบุคคลตามภาพถ่ายของผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.3143/2566  ลงวันที่ 19 กันยนยน 2566

        กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันในข้อหาฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

        โดยจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง  อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566 เวลา 12.00 น.

           จากการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ถูกจับกุมพบว่า ผู้ถูกจับมีหมายจับค้างเก่าเพิ่มเติม อีกจำนวน 1 หมาย

(1) หมายจับของ ศาลอาญา ที่ จ.3123/2566 ลงวันที่ 19 กันยายน 2566 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันในข้อหาฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม   โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”และจากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียหายจำนวน 3 รายตกเป็นเหยื่อ ได้รับความเสียหายมูลค่ากว่า 350,000 บาท และยังพบว่ามีผู้ปกครองผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนหลายรายเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหากับพวก ในพื้นที่ สน.มักกะสัน อีกจำนวนหนึ่ง

        จากการสอบถามผู้ถูกจับให้การภาคเสธฯ โดยรับว่าตนได้เปิดบริษัทท็อปโมเดล(ไทยแลนด์)จำกัดจริง ในฐานะกรรมการผู้จัดการ และเปิดเพจเฟสบุค ชื่อว่า “Top model 2022” ในลักษณะสาธารณะ พร้อมทั้งประกาศข้อความชักชวนว่ารับสมัครประกวดเดินแบบเด็กและเยาวชนเพื่อเข้าสู่วงการบันเทิง  โดยมีการเสียค่าสมัครประกวดเดินแบบ (ค่าแรกเข้า) จากนั้นได้มีการติดต่อพูดคุยกับผู้ปกครองว่ามีงานเทรนนิ่งเดินแบบและมีงานประกวดเดินแบบ ทั้งในและต่างประเทศ หากผู้ปกครองท่านใดสนใจ จะต้องโอนเงินค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ในการเดินแบบ ให้ทางบริษัทตนเสียก่อน โดยอ้างว่าทางผู้ปกครองจะได้รับเงินค่าจ้างในการเดินแบบหลังจากเสร็จงาน แต่ผู้ถูกจับอ้างว่าเกิดปัญหาและข้อขัดข้องในการติดต่อประสานงานในเรื่องเดินทาง และกับทางเจ้าภาพผู้จัดการประกวดเนื่องจากเป็นช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จึงไม่สามารถนำเด็กและผู้ปกครองไปเข้าร่วมการประกวดดังกล่าวตามที่สัญญาได้ จนเป็นเหตุให้บริษัทของตนเกิดปัญหาทางการเงินและได้ปิดตัวลงในช่วงปลายปี 2565  ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่สืบสวนนครบาล IDMB จับกุมได้ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

        จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหาได้เปิดบริษัทท็อปโมเดล(ไทยแลนด์) Top model Thailand จำกัด และเปิดเพจเฟสบุค ในลักษณะเปิดเป็นสาธารณะประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงและมองเห็นได้มีการประกาศข้อความชักชวนว่ารับสมัครประกวดและเดินแบบเด็กและเยาวชนเพื่อเข้าสู่วงการบันเทิง จากนั้นเมื่อมีผู้ปกครองบุตรหลานสนใจทักไปหาผู้ถูกจับกุม จากนั้นผู้ถูกจับกุมจะทำการชักชวนสมัครประกวดโดยเสียค่าใช้จ่ายแรกเข้าเพื่อเทรนนิ่งเดินแบบตามห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านพระราม RCA โดยคิดว่าสมัครแรกเข้าเด็กคนละ 1,000 บาท ต่อมาจากนั้นผู้ถูกจับได้มีการชักชวนให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานให้ร่วมเข้าประกวดการเดินแบบและถ่ายแบบในงานประกวด “miss international” เพื่อเข้าสู่วงการบันเทิง ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านพัทยา โดนจะต้องเสียค่าสมัครประมาณ 5,000 บาทต่อคน อีกทั้งยังต้องจะต้องโอนค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ ค่าประกันงาน ค่าสปอนเซอร์ ค่าเดินทางเข้าประกวด ประมาณ 40,000 – 50,000 บาทต่อ

             ผู้เข้าประกวด 1 คน (ไม่รวมผู้ติดตาม) โดยผู้ถูกจับอ้างว่า ทางผู้ปกครองจะได้รับเงินคืนหลังจากเสร็จสิ้นการประกวด หากเป็นกรณีที่ผู้ถูกจับชักชวนให้ผู้ปกครองนำพาบุตรหลานเข้าประกวดเดินแบบในต่างประเทศ อาทิ ประเทศฮ่องกง สิงค์โปร์ เป็นต้น จะต้องเสียค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในการติดตามบุตรหลานท่านละประมาณ 10,000 – 20,000 บาท อีกทั้งทางผู้ถูกจับอ้างว่า ทางผู้ปกครองจะได้รับเงินค่าจ้างเดินแบบให้แก่บุตรหลานคืน คนละประมาณ 10,000 – 20,000 บาท โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเด็กแต่อย่างใด
หลังจากที่ผู้ปกครองได้โอนค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้แก่ผู้ถูกจับ ผู้ถูกจับได้เชิดเงินหลบหนี อีกทั้งซ้ำร้ายพบว่า เมื่อถึงกำหนดนัดหมาย ผู้ปกครองพร้อมบุตรหลานบางรายได้เดินทางไปรอขึ้นเครื่อง เมื่อสอบถามทางสายการบินกลับพบว่า ไม่มีการจองการเดินทางดังกล่าวแต่อย่างใด และไม่สามารถติดต่อกับผู้ถูกจับได้ อันเป็นการทำลายความหวัง ความฝัน ของเด็กและผู้ปกครองอย่างแสนสาหัสด้วยอุบายและพฤติการณ์หลอกลวงของผู้ถูกจับดังกล่าวข้างต้น เป็นเหตุให้มีผู้ปกครองต่างหลงเชื่อ โดยอาศัยความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจของผู้ปกครอง ที่คาดหวังให้บุตรหลานของตนเข้าสู่วงการบันเทิง ต่างโอนเงินให้แก่ผู้ถูกจับ เป็นจำนวนรายละกว่า 100,000 -200,000 บาท

        พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงฝากประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มผู้ปกครองบุตรหลานซึ่งคาดว่าจะตกเป็นเหยื่อและได้รับผลกระทบของกลุ่มบุคคลดังกล่าว สามารถแจ้งและสอบถามมายัง กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล อีกทั้งยังขอเตือนภัยไปยังผู้ปกครองและบุตรหลานที่มีความฝันในการเข้าสู่วงการบันเทิงทุกท่าน ควรตรวจสอบและพิจารณาให้ถี่ถ้วน รอบคอบเสียก่อน เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว และหากพบเบาะแสของกลุ่มมิจฉาชีพลักษณะนี้ สามารถแจ้งเข้ามาที่  เพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะไม่เป็นคดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที” ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์