ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ อาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้านปรัชญาการเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊ค กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถูกโชเชียลวิพากษ์วิจารณ์ หลังมีคลิปปรากฏขณะลงพื้นที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จว.เชียงราย ลักษณะทวงถามเรื่องข้อกฏหมายกับเจ้าหน้าที่ขุดเจาะถ้ำและการบินโดรน ว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ โดยระบุว่า “โพสท์นี้ผมจะเขียนอธิบายถึงกรณีดราม่าเกี่ยวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ทั้งหมด ซึ่งรวมความเข้าใจผิดของสังคมไว้ทุกประเด็น
– ทั้งหมดที่เขียนนี้ ผมไม่ได้มีส่วนได้เสียกับตำรวจ ไม่มีญาติเป็นตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ใดๆ ทั้งสิ้น แต่ผมเห็นว่าสิ่งที่สังคมโซเซียลกำลังดราม่านั้น มันไม่ถูกต้องในเรื่องของข้อเท็จจริง ซึ่งมาจากการเข้าใจผิด เนื่องจากขาดบริบทของการสื่อสารในคลิป
– และผมรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับคนที่เขาโดน Cyber Bully ในครั้งนี้ ซึ่งผมขอเขียนถึงเรื่องนี้ในโพสท์นี้เป็นอันสุดท้าย ส่วนใครจะเข้าใจหรือไม่นั้น ผมคิดว่าคงจะไม่ไปตอบในคอมเมนต์ใดๆ เพิ่มเติมแล้วนะครับ
———————
1.กรณีศรีวราห์คุยกับเจ้าหน้าที่
จากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
———————-
พล.ต.อ.ศรีวราห์ไม่ได้ขอดูใบอนุญาตขุดเจาะ เพราะเขาคุยกับเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยศรีวราห์ถามว่าที่จะทำตรงนี้ทำภายใต้กฎหมายข้อไหน (เขาถามข้าราชการ ข้าราชการก็ต้องแม่นพอที่จะตอบได้) เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่ากรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้รับการยกเว้นตามมาตรา 4 ศรีวราห์จึงถามต่อว่า แต่มันทำในเขตอุทยานนะ…
จากนั้นจึงเริ่มการสนทนาซึ่งต่อไปนี้คือการถอดข้อความบทสนทนาระหว่าง พล.ต.อ.ศรีวราห์ กับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวในคลิปที่เป็นดราม่า
– เจ้าหน้าที่: “ถ้ายังงี้ต้องทำความตกลงกับทางอุทยานครับ”
– รองฯ ศรีวราห์: “อ่า…ใช่ๆ ผมกำลังท้วงท่านไง ว่าท่านอย่าได้ไปเพลิดเพลิน ให้ดูกฎหมายด้วย ประสานน่ะง่าย ไม่ได้ยากหรอก ก็ทำสักหน่อยนะ”
– เจ้าหน้าที่: “ก็คือ ก็จะทำลักษณะนี้ กำลังคุยกับทางพื้นที่ว่าจะยกเครื่องเจาะขึ้นไปยังไง แล้วเดี๋ยวเราจะดูจากข้างบน”
– รองฯ ศรีวราห์: “หมายถึงท่านจะเจาะจากภูเขา เจาะจากข้างบนลงมาใช่ไหม?”
– เจ้าหน้าที่: “ใช่ครับท่าน”
– รองฯ ศรีวราห์: “แล้วท่านรู้พิกัดของการเจาะหรือยัง”
– เจ้าหน้าที่: “คือส่วนนี้จะเป็นทางนี้เป็นคนให้พิกัด” (พร้อมยกมือชี้ไปทางเจ้าหน้าที่ที่อีกฝ่ายที่ดูพิกัด)
– รองฯ ศรีวราห์: “ประสานกับกรมทรัพยากรธรณีบ้างไหม”
– เจ้าหน้าที่: “ดูครับท่าน”
– รองฯ ศรีวราห์: “ทางกรมทรัพยากรธรณีมาไหม”
– เจ้าหน้าที่: “ทางกรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมอุทยาน เราประสานกันอยู่ครับท่าน”
– รองฯ ศรีวราห์: “ผมให้ประสานกรมทรัพยากรที่มีอยู่ ผมส่งไปให้แล้ว (พร้อมชี้ไปที่ข้อมูลในมือถือของลูกน้องที่ได้จากการขอกรมอุทยาน) คือผมไม่ไปยุ่งกับของเดิมหรอก เจ้าหน้าที่เดิมก็เดินไป ผมเอานอกหน่วยมาเพิ่มให้”
– รองฯ ศรีวราห์: “อันนี้ภาพถ่ายดาวเทียม วิเคราะห์จากดาวเทียมของกรมอุทยานฯ (ให้ลูกน้องโชว์ข้อมูล) ไม่ใช่ของตำรวจหรอก ตำรวจไม่มีห่าอะไรหรอก ไปอาศัยเขามาหมด อันนี้เขาทำมาให้ เห็นเป็นจุดๆ”
(เจ้าหน้าที่ของศรีวราห์ ยื่นข้อมูลที่แสดงในโทรศัพท์มือถือให้ทางทีมทำงานในถ้ำที่เป็นคนดูพิกัดดู)
*** อ่าน/ดู/ฟังถึงตรงนี้ มีตรงไหนที่ศรีวราห์แกไป “ข่มขู่” หรือไป “สั่งห้าม” เจ้าหน้าที่ดำเนินการบ้างไหมครับ ??? แกก็ถามข้อมูล และช่วยประสานงานให้ แถมเอา ตชด. ทีมแพทย์ตำรวจ กองบินตำรวจ พร้อมทั้งอุปกรณ์สื่อสารของตำรวจมาช่วยเพิ่มเติมให้อีก (ตามที่เป็นข่าวเมื่อวาน)
https://www.dailynews.co.th/regional/652136
https://www.facebook.com/prarttana/posts/2155296194497924
——————–
*** แต่เนื่องจากการปั่นกระแสของสื่อ+อคติของคนที่มีต่อศรีวราห์จากคดีเสือดำ คนเลยไปหาเรื่องโดยบิดเบือนประเด็นกลายเป็นว่า ศรีวราห์ไปหาเรื่อง จะสั่งห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ โดยอ้างเรื่องกฎหมาย ทั้งที่การสนทนาทั้งหมด มันไม่ได้เป็นในลักษณะนั้นเลย!!!
*** แล้วก็มีนักกฎหมายออกมาโพสท์ต่างๆ นานาว่า กฎหมายเปิดช่องเห็นสุดวิสัยให้ทำได้ บลาๆๆ ซึ่งนั่นก็การพูด #ผิดประเด็น ตั้งแต่แรก ไม่มีตรงไหนเลยที่ศรีวราห์แกไปสั่งห้ามหรือข่มขู่ว่าห้ามทำ เพราะผิดกฎหมาย!! แกแค่บอกให้ประสานงานให้ถูกต้องตามช่องทางและกับหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ จะได้ทำงานสะดวก
*** นี่คือปัญหาเรื่องการจับประเด็นของการเสพสื่อในยุคโซเซียลในปัจจุบัน ที่คนไม่ค่อยจะรับเนื้อหาสาระไปพร้อมกับ #บริบท ของการสนทนา แต่สื่อมักเลือกหยิบท่อนคำพูดไปตีประเด็นเรียกดราม่า แล้วพอเป็นกระแสคนก็เริ่มอุปทานหมู่ ด่ากันไปเป็นทอดๆ แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าไปดูเข้าไปฟังและทำความเข้าใจด้วยใจเป็นธรรมไม่มีอคติ ???
——————–
2.สาเหตุที่ต้องทำเช่นนั้น
——————-
– เวลาคนทำงานแบบมืออาชีพ (ไม่ใช่แต่ทางราชการนะครับ เอกชนก็ด้วย) เวลาทำอะไรก็ต้องมีการบันทึกความรับผิดชอบ เพื่อดูว่าคนที่มาทำคือใคร หน่วยไหน และมีความเชี่ยวชาญจริงไหม หรือว่ายังขาดผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยไหนบ้าง จะได้หามาเพิ่มเติม
– จะขุดจะเจาะตรงไหนก็ประสานงานกับหน่วยงานเฉพาะที่ดูแลพื้นที่ ไม่ใช่อ้างจิตอาสาแล้วเข้าไปทำมั่วซั่วตามใจชอบ สุดท้ายมีปัญหาขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ?
– ที่ต้องทำแบบนี้เพราะจะได้ระบุได้ว่าหน่วยไหนทำงานบ้าง ใช้คนกี่คน ใครบ้าง คนเหล่านี้เชี่ยวชาญจริงกับงานหรือไม่ (ไม่ใช่ใช้ใครมาทำมั่วๆ แล้วอ้างเป็นจิตอาสาก็ได้) เวลาจะเบิกจ่ายงบเป็นค่าแรงเจ้าหน้าที่ก็จะได้ชัดเจน
– หรือเวลามีปัญหา เช่น อุบัติเหตุ ก็จะได้มีผู้รับผิดชอบ หรือผู้ดูแล เช่น ผมเป็นวิศวกรไปขุด เกิดมีข้อผิดพลาด แต่ผมทำตามคำแนะนำของกรมอุทยานและทรัพยากรธรณี ผมก็รอดตัว ส่วนเจ้าหน้าที่กรมที่รับผิดชอบพื้นที่ก็ไปเคลียร์ปัญหากันเอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการหน้างานก็ไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะทำตามคำแนะนำหรือภายใต้การดูแลของกรมฯ ต่างๆ หรือกรณีมีการบาดเจ็บต้องรักษาพยาบาลก็จะระบุที่มาได้ จะได้ขอเบิกจ่าย
– ทั้งหมดนี้คือการทำให้ถูกตามขั้นตอน ไม่ต่างอะไรกับบริษัททำบัญชีรายรับรายจ่าย ออกภาษี มีผู้ตรวจสอบ มีฝ่ายกฎหมาย มีคนรับผิดชอบการทำงานทุกขั้นตอน ซึ่งทางศรีวราห์เขามาประสานช่วยเหลือให้เรื่องนี้ เขาไม่ได้มาคาดคั้น ข่มขู่ หรือเอาผิดกับคนทำงานเลยครับ!!
*** ฝ่ายทำงานหน้างานก็ทำไป ฝ่ายประสานงานก็จัดการให้เรียบร้อยในเรื่องของขั้นตอนและการประสานงาน ศรีวราห์ที่เขาลงไปตรวจเยี่ยมการสั่งการตำรวจที่มาช่วยงาน เขาก็คุยกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานและช่วยดูในเรื่องนี้ให้ก็เท่านั้นเอง
*** หมายเหตุ: ฝ่ายปฏิบัติการณ์เขาก็ทำงานของเขาไป ฝ่ายประสานงานก็ติดต่อหน่วยงานและให้ข้อมุลกับฝ่ายปฏิบัติการณ์ การทำงานประสานงานไม่ได้ทำให้การปฏิบัติงานล่าช้าไปแม้แต่น้อย ดังนั้นอย่าเอากรณีแบบว่า…เด็กจะจมน้ำ โจรขโมยของ และอื่นๆ (ซี่งเป็นกรณีฉุเฉินเฉพาะหน้าฉับพลัน) มาเปรียบเทียบครับ มันเทียบกันไม่ได้ มันเป็นตรรกะวิบัติครับ
———————
3.กรณีถามถึงใบอนุญาตใช้โดรน
———————-
– ก่อนที่โซเซียลจะด่า ควรจะทำความเข้าใจ “บริบท” ที่อยู่ในคลิปนั้นเสียก่อน ประการแรก เขาไม่ได้มาตั้งแถวตอนรับศรีวราห์ แต่เขาตั้งแถวเตรียมความพร้อมสำหรับทีมสำรวจที่จะขึ้นไปบนยอดเขา เพื่อช่วยดูปากโพรงถ้ำจากด้านบน
(ศรีวราห์เป็นตำรวจ ต่อให้ยศสูงแค่ไหน ทั้งตัวเขาและลูกน้องก็ไม่มีสิทธิสั่งทหารหรือหน่วยกู้ภัยที่ไม่ได้อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา จะสั่งได้ก็แต่ตำรวจที่ศรีวราห์สั่งให้มาช่วยงานกู้ภัยครั้งนี้เท่านั้น)
(ซ้ายสุดของแถวคือ ตชด.ถัดมาชุดเสื้อยืดน้ำเงินคือ พลร่มกู้ชีพจากค่ายนเรศวร ถัดมาไม่ทราบ น่าจะเป็นทหาร ส่วนชุดส้มคือศูนย์กู้ภัยและมวลชนสัมพันธ์ภาคเหนือตอนบน ส่วนที่ยังเดินมาตั้งแถวตอนเขายังคุยกันอยู่ น่าจะเป็นกรมอุทยาน)
– ศรีวราห์เดินมาถึงเจอแถว เพื่อดูความพร้อมของทีมตำรวจที่แกสั่งงานให้มาช่วยงานกู้ภัย แกเจอลูกน้องเก่าที่ชื่อ “โจ้” แกก็ทักทายตามประสาคนคุ้นเคย คุยกันถามไถ่ลูกน้อง บอกมาบินโดรนมีใบอนุญาตแล้วใช่ไหม (ไม่ใช่ซี้ซั้ว) แกก็หยอกลูกน้องแก เฮฮากันไป
*** ปัญหาคือมีคนถ่ายคลิปบรรยากาศไว้ แล้วเอาไปลง คนก็ไปตีความเข้าใจผิดหาว่า ศรีวราห์มา #เบ่ง ให้คนมาตั้งแถวต้อนรับ แล้วก็เบ่งใส่ทีมกู้ภัย บลาๆๆๆ ทั้งที่มันคนละเรื่องเลยครับ
*** กรุณาสังเกตดีๆ ในคลิป 5 นาทีกว่าๆ นั้นจะเห็นว่าศรีวราห์คุยกับลูกน้องแกเท่านั้น ส่วนหน่วยงานอื่นเขาก็กำลังเดินมาตั้งแถวเตรียมความพร้อมก่อนไปปฏิบัติการณ์ ศรีวราห์แกไม่ได้ไปยุ่งย่ามอะไรเลย แกคุยกับลูกน้องแกนาทีเดียว จากนั้นแกก็ไปแล้ว สังเกตดูนาที่ที่ 1.40 ลูกน้องแกที่ชื่อโจ้ที่เป็นคนบังคับโดรน ก็เดินกลับไปที่เดิมแล้ว
*** แล้วเขาคุยกันแค่ 1 นาที ตอนแซวเรื่องใบอนุญาต ลูกน้องแก ยังบังคับไปหัวเราะไปเลย (ดูนาที่ที่ 1.20) จะมีก็แต่คนในโซเซียลนี่แหละครับที่ไปหาเรื่องศรีวราห์
https://www.youtube.com/watch?v=uVitdFO5ifA
————————
4.เขาทำงานกันเป็นทีม
————————
*** ผมเห็นคนชื่นชม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร.ที่ขึ้นไปลุยดูปากโพรงถ้ำกับชุดสำรวจของตำรวจ แต่มาด่าศรีวราห์ พวกคุณคงไม่ทราบว่าเขาทำงานร่วมกัน ก็ ผบ.ตร.นี่แหละที่ให้ รองฯ ศรีวราห์ คอยดูคอยประสานงานด้านล่าง เขา #ทำงานกันเป็นทีม ครับ
*** ทางตำรวจนำโดยศรีวราห์ เขาก็จัดอุปกรณ์ เครื่องไม้ เครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็น ตชด. ทีมแพทย์ตำรวจ กองบินตำรวจ อุปกรณ์สื่อสารของตำรวจ สุนัขตำรวจมาเพื่อช่วยงานกู้ภัย แต่โซเซียลไม่เคยรู้ โซเซียลไม่สน โซเซียลจะหาแต่ “ผู้ร้าย” แล้วเอาไปรุมถล่มเพื่อเป็นกระโถนรองรับอารมณ์ของผู้คน
คุณคิดว่ามันยุติธรรมแล้วหรือครับ? ผมว่ามันถึงเวลาที่จะหยุดการ Cyber Bully กันได้แล้วนะครับ
————————
เก็บตกความเข้าใจผิด
————————
– หมายเหตุ: ใครที่บอกว่าคำสั่งการทั้งหมดขึ้นกับผู้ว่าฯ เพราะประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ช่วยดูด้วยนะครับว่า จักรทิพย์+ศรีวราห์เขาลงไปวันที่ 28 มิ.ย. แต่ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติมันมาวันที่ 29 มิ.ย. (เรียงเวลาดีๆ ก่อนนะครับ)
http://news.ch3thailand.com/politics/72372
– หมายเหตุ: ใครที่มาเล่นมุก “ให้ไปดูคดีเสือดำดีกว่า” กรุณาไปศึกษาดีๆ นะครับว่าหน้าที่ตำรวจคืออะไร ตำรวจเขาแจ้งข้อหา จับกุม (แต่เปรมชัยยื่นขอประกันมาสู้คดี ซึ่งศาลก็อนุมัติ) และทำสำนวนหลักฐานส่งให้อัยการ และอัยการก็ส่งเรื่องให้ศาลเพื่อไปดำเนินคดีไปตั้งแต่เดือนเมษยนแล้ว!!!
https://www.thairath.co.th/content/1269009
ทั้งหมดอยู่ที่ศาลแล้ว ตอนนี้คือการสืบพยานและเปรมชัยต้องไปสู่คดีในชั้นศาล #ตำรวจหมดหน้าที่ไปนานแล้วครับ!!! ดังนั้นเลิกดราม่าว่าจะมาทวงความยุติธรรม เรียกร้องกรณีเสือดำกับตำรวจได้แล้ว รอดูคำตัดสินของศาลดีกว่า ถ้าออกมาไม่ถูกต้อง ค่อยมาเรียกร้องกัน”
โพสท์นี้ผมจะเขียนอธิบายถึงกรณีดราม่าเกี่ยวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ทั้งหมด…
โพสต์โดย Kittitouch Chaiprasith เมื่อ วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2018