ผู้การเชียงใหม่เร่งรัดคดีแก๊ง”นักเลงขาสั้น”ไล่ฟันชาวบ้านบาดเจ็บ

352

ผู้การฯ เชียงใหม่ เร่งรัดคดีแก๊งไทใหญ่เอามีไล่ฟันชาวบ้านบาดเจ็บ เตรียมตรวจสอบพาสปอร์ตว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ก่อนจะพิจารณาเพิกถอนแล้วผลักดันกลับประเทศ

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 66 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เดินทางมาติดตามคดีกลุ่มแก๊งวัยรุ่นไทใหญ่ รวมตัวก่อนจะก่อเหตุใช้มีดฟันชาวบ้านในพื้นที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมี พ.ต.อ.ณัฐพล จันมะโนผกก.สภ.สันกำแพง, พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์  ผัดก๋า  รอง ผกก.สส.สภ.สันกำแพง, พ.ต.ท.ธิติวัฒน์ ชาญชัยจิรโรจน์ รอง ผกก.ป.สภ.สันกำแพง , พ.ต.ท.บุญธรรม หาจัตุรัส รอง ผกก.สอบสวน สภ.สันกำแพง เข้าร่วมให้ข้อมูล

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.50 น.ของวันที่ 6 ต.ค. 2566  บริเวณถนนในหมู่บ้านร้องวัวแดง หมู่ที่ 10 ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันกำแพง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุกลุ่มวัยรุ่นตีกัน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าตรวจสอบ ปรากฎว่าพบกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเป็นกลุ่มจำนวนหลายคัน และบางคันมีการถืออาวุธมีดไว้ในมือ จึงได้เข้าไประงับเหตุ ปรากฏว่าเมื่อกลุ่มวัยรุ่นเห็นรถยนต์ตำรวจจึงได้ขับรถหลบหนี ต่อมาทราบว่าจากเหตุการกลุ่มวัยรุ่นตีกัน ได้มี นายชาตรี สุยะวงค์ อายุ 39 ปี ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวทำร้ายโดยใช้อาวุธมีดฟันที่บริเวณสะโพกด้านหลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ทำการสืบสวน ทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นที่มาก่อเหตุนั้นใช้ชื่อกลุ่มว่า “นักเลงขาสั้นเชียงใหม่” และสามารถจับกุมกลุ่มวัยรุ่นได้ 6 คน คือ นายนู   (Mr.Sai  Noo) อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา , นายแสง (Mr.Saeng) อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา , นายขุน จ่อ (Mr.Khun  Kyaw) อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา , นายพงษ์ (Mr.Pong) อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา , นายหาน (HAN SAI HAN ) อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมา และนายนิน (ไม่มีชื่อสกุล) อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ได้ 4 คัน และอาวุธมีดขนาด 2 ฟุต จำนวน 2 เล่ม ได้ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และร่วมกันพกพาอาวุธมีด ไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร”
 
จากการขยายผล ทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวคือกลุ่ม “นักเลงขาสั้นเชียงใหม่” เป็นกลุ่มวัยรุ่นไทใหญ่  มีสามาชิกกลุ่มประมาณ 20 คน และเป็นพันธมิตรกับ “กลุ่มบัวดำ” ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นไทใหญ่เหมือนกัน พฤติกรรมของกลุ่มคือจะรวมตัวกันบริเวณกาดหลวงเชียงใหม่ โดยนัดหมายกันผ่าน แอปพลิเคชั่น Factbook ซึ่งแต่ละคนจะไม่ได้พักอาศัยอยู่ด้วยกัน และไม่ได้ทำงานที่เดียวกัน

พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า คดีนี้เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่จะยกพวกทำร้ายกันและเข้าใจผิดว่าผู้บาดเจ็บเป็นคู่กรณีจึงได้เข้ารุมทำร้าย ในส่วนแรกข้อหาทำร้ายร่างกายก็ดำเนินคดีไป อีกส่วนคือการรวมตัวกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป รวมตัวกันก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง สาธารณะ ตามประมวลกฎหมายอาญา 215 ก็ต้องดำเนินคดี ส่วนการได้ของบัตรประจำตัวหรือพลาสปอร์ต ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าได้บัตรมาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ กลุ่มผู้กระทำความผิดมีทั้งหมดเท่าไหร่ กลุ่มต่างๆ ที่ได้บัตรมาและมีพฤติกรรมที่ไม่เรียบร้อย ชอบรวมกลุ่มกันก็จะนำมาเพิกถอนบัตรทั้งหมดและส่งกลับ สำหรับในพื้นที่อื่นๆ ก็ได้มีการดำเนินการในมาตรการเดียวกัน ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจ มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด หากพบแรงงานต่างด้าวที่ออกมาประพฤติตนวุ่นวายในทางสาธารณะ ก็จะดำเนินการส่งเรื่องไปทางจังหวัดเพื่อเพิกถอนบัตรและส่งกลับ ในส่วนของผู้บาดเจ็บก็ต้องรอผลแผลว่าสาหัสหรือไม่ หากพบว่าสาหัสก็มีโทษที่มากขึ้น

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์