“รองฯต่อ”บุกทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดกลางเมืองนครปฐม ยึดของกลางกว่า 300 ล้าน

29230

เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น. (27 ก.ย.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. , พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ นำกำลังตำรวจ 191และตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม เข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ซ.ลำพยา – บอสโก 2 ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นแหล่งพักยาเสพติดของเครือข่ายค้ายาเสพติด

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์สองชั้น ตำรวจเข้าปิดล้อมเพื่อทำการตรวจค้นโดยจับผู้ต้องหาเป็นชายทั้งหมดสี่ราย คือนายชลิต อายุ 39 ปี , นายอภิชาติ อายุ 38 ปี , นายจรัญ อายุ 38 ปี และ นายวัชระ อายุ 36 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางยาบ้า 15 ล้านเม็ด , เฺฮโรฮีน 443 แท่ง ไอซ์ 420 กิโลกรัม , ยาเสพติดประเภทแฮปปี้วอเตอร์ และยาไฟว์ไฟว์ อีกจำนวนมาก

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมตรวจสอบ โดยตำรวจ 191 แกะรอยขยายผลจากกลุ่มเครือข่ายที่ถูกจับก่อนหน้าพบความเชื่อมโยงมาถึงกลุ่มผู้ต้องหาโดยใช้เวลาในการแกะรอยติดตามพฤติกรรมนานกว่าสองปี โดยของกลางที่ตรวจยึดได้มีมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามากที่สุดเท่าที่มีการจับ ซึ่งทางนายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการเน้นย้ำนโยบายปราบยาเสพติดและการท่องเที่ยว โดยหลังจากนี้ได้จะทำการขยายผลหาความเชื่อมโยงของเครือข่ายต่อไป

ด้าน พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า แนวทางสืบสวนพบว่าขบวนการนี้จะ ลำเลียงยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านทางฝั่งเหนือก่อนที่จะนำเข้ามาตามเส้นทาง โดยก่อนหน้านี้มีการใช้บ้านในแถบชานเมืองปริมณฑล เป็นแหล่งพัก แต่ภายหลังมีการจับผู้ต้องหาคือ นายวราวุธ 36 ปี ในความผิด มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง อีกทั้งยังเป็นผู้ต้องหาในข้อหาสมคบเพื่อการฟอกเงินของทาง บช.ปส. ทางเครือข่ายจึงยักย้ายยาเสพติดมารวมกันไว้ที่บ้านหลังนี้ เพื่อเตรียมที่จะกระจายให้กับกลุ่มเอเย่นรายย่อย จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบของกลางอยู่ในบ้านดังกล่าว

สำหรับในเบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ไว้ในความครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย

#thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์