เจาะแฟ้มเครือข่ายยา โยงพวกมีสี (ตอนจบ)

1407

เจาะแฟ้มเครือข่ายยา โยงพวกมีสี  (ตอนจบ)แนะนายกฯล้างบ้าน-ขจัดข้าราชการนอกลู่ คาดนโยบาย”1 ปียาลด-4 ปีหมด”

        หากได้ติดตามสกู๊ปพิเศษ นำเสนอแล้ว 2 ตอน ผู้อ่านคง พอมโนภาพได้ว่าองค์กรค้ายาเสพติดในประเทศไทย มีเครือข่ายกว้างขวางแค่ไหน สร้างรายได้ให้กับผู้ค้ามหาศาลถึงขั้นมีทองคำเก็บไว้ในบ้าน 5-6 ตัน ขนเงิน จ่ายให้ผู้ผลิตยาครั้งละ 340 ล้านบาท สามารถจ่ายสินบนให้เจ้าหน้ารัฐทั้งแบบประจำเดือนและเป็นครั้งคราว เฉลี่ยเดือนละหลายสิบล้านบาท

      ขณะที่เจ้าหน้ารัฐบางหน่วยที่ตกเป็นทาสเงินของแก๊งค้ายาเสพ หาช่องทางใช้ทรัพย์สินของทางราชการลำเลียงยาเสพติดเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ

      ผู้ต้องหาที่ให้การกับทีมสืบสวนสอบสวนขยายผล เล่าว่า”ช่วงเดือนธันวาคม 2557 ได้ร่วมขนอาวุธปืน จากค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รถบรรทุกจีเอ็มซี จำนวน 2 คัน ขนกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 20 ลังๆละ 1,000 นัด รวม 20,000 นัด ยกจากคลังกระสุนปืน ลูกระเบิด 5 ลัง ยกจากคลังระเบิด มีผู้ร่วมเดินทาง 7 คน นำไปส่งค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย

   มีรถบรรทุกจีเอ็มซี ขนอาวุธแบบเดียวกัน ออกจากค่ายแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี  นำไปส่งค่ายเดียวกันในจังหวัดเชียงราย นำส่งให้หน่วยทหารกับหน่วยทหาร สนับสนุนการรบปกติ มีเจ้าหน้าที่ทหารคุมคลังของค่ายทหารเชียงรายมารอรับหน้าคลัง

 หลังจากขนอาวุธลงแล้วนอนพักในค่ายทหาร 1 คืน รุ่งเช้านาย พันย. สั่งให้ผมไปนั่งรถจีเอ็มซี ที่มาจากลพบุรี คุยให้ผมรับงานไปก่อเหตุแต่ได้ปฏิเสธ สักครู่มีรถกระบะบรรทุกสิ่งของมาจอดเทียบกับรถจีเอ็มซี ชาย 4-5 คน ขนของขึ้นรถจีเอ็มซี คันที่ผมและนายพันย.นั่ง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

  “จากนั้นผมนั่งรถจีเอ็มซีคนที่มาจากเพชรบุรี เพื่อเดินทางกลับหน่วยที่ตั้ง ต่อมาทราบว่ารถจีเอ็มซีคนที่ไปจากลพบุรี ถูกตำรวจจับกุมที่ นครสวรรค์ เพราะบรรทุกยาบ้า จึงเชื่อว่าเป็นยาเสพติดของนายพัน ย.เพราะระหว่างที่คุยกันมีรถกระบะบรรทุกของมาส่งให้ และนายพันย.เป็นหัวหน้าคุมรถคันที่ถูกจับมาเอง”ผู้ต้องหาระบุ
 
ผู้ต้องหาได้ให้การเพิ่มเติมอีกว่าในช่วงที่ทำงานให้นายเฉินหรือนายใหญ่ ได้รับความไว้วางใจสูง คอยประสานงานกับกลุ่มต่างๆรวมทั้งให้นำเงินไปจ่ายให้กลุ่มต่างๆด้วย จึงทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนไทยที่เป็นหารือกับนายใหญ่ว่าจะมาในช่วงไหนบ้าง
 
 “ช่วงที่มีการลำเลียงยาเสพติดทางเจ๊ลิน จะมีบทบาทสำคัญจะมาหารือกันที่เมียวดีคอมแพค บางครั้งจะมีผู้ที่อ้างว่าเป็นอดีตตำรวจมารับเงินประจำเดือนครั้งละ 10-15 ล้าน หากมีการลำเลียงยาเสพติดจะมีเงินเคลียร์เส้นทาง จะมีหญิงอ้างเป็นตำรวจคอยเคลียร์เส้นทาง ผมเคยนำเงินเคลียร์เส้นทางส่งให้หญิงที่อ้างเป็นตำรวจ เป็นเงิน 15 ล้าน ส่งมอบกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.แม่สอด จ.ตาก การจับกุมยาเสพติดที่ด่านตรวจห้วยระอุ อ.แม่สอด ผู้หญิงที่อ้างเป็นตำรวจโทรศัพท์แจ้งเจ๊ลินว่า รถบรรทุกยาเสพติด ถูกจับ“
ผู้ต้องหาระบุว่า  บางเดือน มีตำรวจยศใหญ่จากกรุงเทพฯ กับพวกหลายคนมาพักและคุยกับนายใหญ่ ที่เมียวดีคอมแพค
   
ท้ายของคำให้การทางทีมสืบสวนสอบสวนขยายผลได้ให้ผู้ต้องหาชี้รูปภาพของ เจ๊ลิน นายพัน ย. หญิงที่อ้างเป็นตำรวจ ชายที่อ้างเป็นอดีตตำรวจรับเงินเคลียร์เส้นทางประจำเดือน และตำรวจยศใหญ่ จากกรุงเทพฯ พร้อมลงลายมือชื่อรับรองต่อหน้าพนักงานสอบสวน
 
จากคำให้การของผู้ต้องหาที่นำเสนอมาทั้งหมด เป็นตัวอย่างเครือข่ายยาเสพติดเพียงเครือข่ายเดียว พบว่าดูดเงินจากเมืองไทยไปจำนวนมหาศาลแล้ว และเชื่อว่าเครือข่ายยาเสพติดที่แผ่อิทธิพลอยู่ในเมืองไทยตั้งแต่เหนือจรดใต้ต้องมีหลายเครือข่ายแน่นอน
 
เพราะนับแต่เครือข่ายนายเฉินถูกจับ ยาเสพติดมิได้ลดลงแต่อย่างใด ล่าสุด วันที่ 20 กันยายน ที่เชียงราย แก๊งขนยาเสพติดยิงปะทะกับตำรวจปราบปรามยาเสพติดและตำรวจเชียงราย ตำรวจถูกยิงตาย 1 นาย บาดเจ็บ 1 นาย คนร้ายถูกยิงตาย 1 คน ยึดยาบ้าได้ประมาณ 6 ล้านเม็ดและยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง
 
     ดังนั้นตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศให้นโยบายปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ก่อนเปิดยุทธการต้องเร่งตรวจสอบว่ามีข้าราชการภาคส่วนไหนเอื้อประโยชน์ให้แก๊งค้ายาเสพติดบ้าง เมื่อได้ข้อมูลชัดเจนต้องจัดการอย่างเด็ดขาด ถ้าหลักฐานอ่อน นายกฯจะกล้าย้ายพ้นหน้าที่ เก็บกรุแล้วกล้าที่สอยหรือไม่.?มันเป็นเกมวัดใจ สร.1

  หากไม่จัดการกับข้าราชการนอกลู่ก่อน นโยบายที่ สร.1ประกาศว่า” 1 ปี ยาเสพติดลดลง 4 ปีต้องหมด” จะไม่บรรลุเป้าหมาย

       ซึ่งข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับแก๊งค้ายาเสพติดล้วนมีอยู่ในมือของตำรวจ ทหารและ ป.ป.ส.แล้ว ยิ่งข้อมูลที่”ทีมสกู๊ปข่าวสำนักข่าวไทยแทบลอยด์”นำเสนอมา 3 ตอน คงหาไม่อยาก เพียงแค่สั่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ให้ส่งแฟ้มขึ้นไป เพราะคำให้การของผู้ต้องหาตามที่ระบุในเอกสารเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 และทีมสืบสวนสอบสวนขยายผล เสนอให้ผบ.ตร.ในขณะนั้นไปแล้ว แต่ถูกเก็บซุกไว้

    ถ้านายเศรษฐา เรียกแฟ้มนี้ไปดูจะเกิดประโยชน์กับนายตำรวจและนายทหาร ที่ถูกผู้ต้องหากล่าวหารวมถึงตำรวจภูธรภาค 6 บางกลุ่มที่ถูกกล่าวหาขายหลักฐานจับกุมยาไอซ์ 1,500 กิโลกรัมให้ทนายความแก๊งค้ายาเสพติด เพราะเมื่อดูรายละเอียดแล้วสามารถเรียกตำรวจและทหารเหล่านี้นำหลักฐานไปชี้แจงเพื่อล้างมลทินได้

    หากไร้มลทินจะไม่ให้ส่งผลกระทบกับการแต่งตั้งโยกย้ายที่จะมีขึ้นในระยะอันใกล้นี้ด้วย แต่ถ้าชี้แจงไม่ชัดเจน ท่าน สร.1  จะกล้าสั่งเก็บกรุแล้วตั้งกรรมการสอบสวนหรือไม่ .? นั้น คงต้องรอดูว่า นโยบาย ถ้าเป็นเพียงแค่ลมปาก ประชาชนก็หมดศรัทธาจากรัฐบาลนี้แน่ๆ..!!!
     

  #ทีมสกู๊ปข่าวสำนักข่าวไทยแทบลอยด์ ที่ยึดถือ จรรยาบรรณวิชาชีพสื่อ ครบถ้วน #thaitabloid
www.thaitabloid.com